ในโลกที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบและแรงกดดัน หลายคนอาจมองหาทางออกที่ผิดพลาด และหนึ่งในกับดักที่อันตรายที่สุดคือการหันไปพึ่งพา “ยาไอซ์” ยาเสพติดที่ถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความสนุกชั่วคราวหรือแม้กระทั่งแฟชั่นในบางกลุ่ม แต่แท้จริงแล้วกลับเต็มไปด้วยอันตรายร้ายแรง ยาไอซ์ถูกเชื่อกันว่าสามารถทำให้ดูสดใส เพิ่มพลังงาน และสร้างความมั่นใจ จึงไม่น่าแปลกใจที่หลายคนโดยเฉพาะวัยรุ่นและคนทำงานจะตกเป็นเหยื่อ
บทความนี้จะพาคุณทำความเข้าใจว่า ยาไอซ์คืออะไร ทำมาจากอะไร และลักษณะเป็นอย่างไร เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้นว่าเบื้องหลังของยาเสพติดชนิดนี้ซ่อนอันตรายอะไรไว้บ้าง
ยาไอซ์ หรือที่หลายคนเรียกว่า “ไอซ์ (Ice)” มีชื่อทางเคมีว่า เมทแอมเฟตามีน (Methamphetamine) ซึ่งจัดเป็นยาเสพติดประเภทกระตุ้นประสาท ที่มีฤทธิ์รุนแรงกว่ายาบ้า เนื่องจากเป็นสารที่ผ่านการสังเคราะห์ให้มีความบริสุทธิ์สูง เมื่อเสพเข้าสู่ร่างกายจะส่งผลโดยตรงต่อระบบประสาท ทำให้รู้สึกเคลิบเคลิ้ม ร่าเริง สนุกสนาน และไม่รู้สึกเหนื่อยล้า
แน่นอนว่ายาไอซ์ทำให้เกิดการเสพติด และติดอย่างง่ายดาย เพียงแค่มีการใช้ไม่กี่ครั้ง เนื่องจาก แอมเฟตามีนจะส่งผลต่อระบบจิตและประสาท มีฤทธิ์เสพติดที่รุนแรงและอันตรายกว่ายาบ้าทั่วๆไป โดยเมื่อเสพเข้าไปจะออกฤทธิ์กระตุ้นสมองให้หลั่งสารสื่อประสาทโดพามีน(Dopamine) ออกมามากผิดปกติ สารนี้ทำให้เกิดอารมณ์สนุกสนานเคลิบเคลิ้ม แต่หากเมื่อยาหมดฤทธิ์ สมองจะต้องการให้เกิดการหลั่งของสารโดพามีนอีก ทำให้ผู้เสพต้องกลับมาใช้ยาอีกครั้งเพื่อสร้างความสุขในรูปแบบเดิม
แม้หลายคนจะคุ้นเคยกับรูปลักษณ์ใสคล้ายน้ำแข็งของยาไอซ์ แต่สิ่งสำคัญที่ควรรู้คือยาไอซ์ไม่ได้มีส่วนผสมจากธรรมชาติเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม มันถูกผลิตขึ้นจากสารเคมีสังเคราะห์ที่อันตรายต่อร่างกายอย่างมาก
สารตั้งต้นที่มักถูกนำมาใช้ ได้แก่ เอฟีดริน (Ephedrine) และ ซูโดอีเฟดริน (Pseudoephedrine) ซึ่งพบได้ในยาลดคัดจมูกบางชนิด เมื่อนำสารเหล่านี้ไปผ่านกระบวนการทางเคมีที่ซับซ้อน จะได้ผลึกเมทแอมเฟตามีน (Methamphetamine) ที่มีความเข้มข้นสูงและออกฤทธิ์รุนแรงกว่ายาบ้าในรูปแบบทั่วไป ยาไอซ์จึงเป็นสารเสพติดสังเคราะห์ที่อันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก
และที่น่ากังวลคือการผลิตยาไอซ์ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในแหล่งลับที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้มีการปนเปื้อนของสารพิษหรือสารเคมีอื่น ๆ เพิ่มเข้ามาโดยไม่รู้ตัว ผู้เสพจึงไม่ได้รับเพียงแค่สารเสพติด แต่ยังเสี่ยงกับสารเคมีที่เป็นพิษต่ออวัยวะภายใน และอาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้
ยาไอซ์จะไม่มีกลิ่น และมีลักษณะเป็นผลึกใสคล้ายก้อนน้ำแข็ง จึงเป็นที่มาของชื่อ “ยาไอซ์” โดยจะมีความบริสุทธิ์ของยาค่อนข้างสูงกว่ายาบ้า (Amphetamine) ประมาณ 4-5 เท่า นอกจากนี้ยังมักถูกบรรจุในถุงพลาสติกขนาดเล็กเพื่อใช้จำหน่าย
แม้รูปลักษณ์จะดูเหมือนไม่มีพิษภัย แต่โทษของยาไอซ์กลับรุนแรงและเสี่ยงต่อการเสพติดอย่างมากแม้จะมีการใช้ไม่กี่ครั้ง ทั้งในแง่ของผลข้างเคียงต่อสมอง สุขภาพร่างกาย และพฤติกรรม ทำให้ผู้เสพมีโอกาสสูงที่จะเกิดอาการทางจิตและปัญหาสุขภาพตามมาในระยะยาว เนื่องจากเมทแอมเฟตามีนจะส่งผลต่อระบบจิตและประสาท มีฤทธิ์เสพติดที่รุนแรงและอันตรายกว่ายาบ้าทั่วไป ทำให้เกิดอารมณ์สนุกสนานเคลิบเคลิ้ม แต่หากเมื่อยาหมดฤทธิ์ สมองจะต้องการให้เกิดการหลั่งของสารโดพามีนอีก ทำให้ผู้เสพต้องกลับมาใช้ยาอีกครั้งเพื่อสร้างความสุขในรูปแบบเดิม
ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ระบุว่า ยาไอซ์ หรือเมทแอมเฟตามีน เป็นยาเสพติดประเภทที่ 1 ยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรง เช่นเดียวกับเฮโรอีนและยาบ้า
ผู้ที่กระทำความผิด โดยการครอบครองเพื่อเสพมี โทษตามกฎหมายคือโทษจำคุก1ปี ถึง10 ปี และโทษปรับสูงสุด 200,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และในกรณีที่มีการครอบครองสารเสพติดให้โทษในประเภทนี้เกินกว่า 20 กรัมกฎหมายให้ถือว่าเป็นการครอบครองไว้เพื่อจำหน่าย มีโทษจำคุกตลอดชีวิต ซึ่งโทษสูงสุดคือประหารชีวิต
ยาไอซ์มักเป็นที่นิยมในกลุ่มคนที่มีฐานะ คนดัง นักร้อง รวมถึงคนทั่วไปที่มีกำลังในการซื้อเนื่องจากมีราคาที่ค่อนข้างแพงกว่ายาบ้า บางคนเริ่มต้นจากความอยากรู้อยากลอง จนมีการทดลองใช้ จนกระทั่งกลายเป็นเสพติด เพราะความสุขที่ได้รับ และความเพลินเพลินระหว่างการเสพเข้าไป ทำให้มีความต้องการใช้มากขึ้นเรื่อยๆ และบางครั้งเป็นเสมือนแฟชั่นในกลุ่มผู้ใช้ยา นอกจากนี้ยังมีความเชื่ออีกว่า ยาไอซ์จะช่วยให้สมองดี เรียนดี ช่วยเพิ่มสมรรถภาพและความต้องการทางเพศอีกด้วย
ส่วนใหญ่มักจะนิยมใช้วิธีสูดดมไอระเหยเข้าไป, การฉีดเข้าเส้นเลือด, และการกลืน
หากสงสัยว่าสมาชิกในครอบครัวมีการใช้ยาไอซ์หรือมีการติดยาเสพติดหรือไม่ คุณอาจเริ่มสังเกตได้จาก
อ่านต่อ: ยาไอซ์ออกฤทธิ์อย่างไร อาการและโทษของยาไอซ์ที่ควรรู้
หากคุณเชื่อว่าคนที่คนรู้จัก คนรัก หรือคนในครอบครัวของคุณกำลังใช้ยาไอซ์ หรือเริ่มมีอาการติดยา สิ่งที่ควรจะทำอันดับแรก ๆ ก็คือ
ยาไอซ์ คือสารเมทแอมเฟตามีนบริสุทธิ์ที่มีฤทธิ์ ทำลายสมองและระบบประสาทอย่างรุนแรง ก่อให้เกิดการเสพติดได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย การเสพยาไอซ์ไม่ว่าจะด้วยวิธีสูดดมไอระเหย (เผาฟรอยด์) ซึ่งทำลายโพรงไซนัส หรือการฉีดเข้าเส้นเลือด ซึ่งเป็น ประตูสู่โรคติดเชื้อร้ายแรง (HIV, ตับอักเสบ) ล้วนนำไปสู่ความพินาศทั้งสิ้น
หากคุณสังเกตเห็นสัญญาณเตือนจากคนที่คุณรัก ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป, อารมณ์แปรปรวน, ร่างกายซูบผอม, หรือพบอุปกรณ์เสพยา อย่าเพิกเฉยเด็ดขาด การพยายามเลิกยาไอซ์ด้วยตัวเองนั้นอันตรายมาก เพราะยาไอซ์ส่งผลต่อสมองอย่างรุนแรง การถอนยาต้องอยู่ภายใต้การดูแลทางการแพทย์เท่านั้น
สถานบำบัดยาเสพติดเอกชน Lighthouse พร้อมเป็นทางออกที่ปลอดภัยและได้มาตรฐาน ด้วยการดูแลอย่างใกล้ชิดและโปรแกรมบำบัดที่ครอบคลุมทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยผ่านพ้นช่วงถอนยาอย่างปลอดภัย แก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุของการเสพติด และกลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืนความรักและความเข้าใจคือสิ่งสำคัญ แต่การบำบัดที่ถูกวิธีคือทางรอดที่แท้จริง อย่ารอช้า ติดต่อ Lighthouse เพื่อปรึกษาและก้าวแรกสู่ชีวิตใหม่ที่ปราศจากยาเสพติดวันนี้
Lighthouse Human Services & Consulting, Co., Ltd.
Head Office:
Ramkamheng 118
Saphan Sung, Bangkok 10240
Thailand