รู้หรือไม่? ยาเสพติดคร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกไปแล้วมากกว่า 4 เท่าของการฆาตกรรม ดังนั้นถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราจะพาคนที่เรารักออกห่างจากยาเสพติดอันเลวร้ายเหล่านี้ แต่จะพูดคุยกับพวกเขาอย่างไรดีให้พวกเขาเข้ารับการบำบัดยาเสพติด เพราะไม่ว่าผู้ที่ติดยาเสพติดจะเป็นเพื่อน ญาติพี่น้อง หรือคนในครอบครัวที่ผูกพันมากเพียงใด หลังจากตกอยู่ในการควบคุมของยาเสพติด คนที่คุณคุ้นเคยก็แทบจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ดังนั้นวิธีพาคนไปบำบัดยาเสพติดด้วยการพูดคุยนั้นจึงอาจทำได้ยาก เพราะวิธีการพูดคุยแบบทั่วไปนั้นไม่ค่อยจะเห็นผลมากนัก บางครั้งอาจทำให้เกิดอาการเตลิดหรือกระตุ้นให้ผู้ติดยาเสพติดสร้างความรุนแรงได้ คุณจึงจำเป็นต้องศึกษาวิธีการพูดโน้มน้าวใจเพื่อกล่อมให้เข้ารับการบำบัดโดยสมัครใจ
บทความนี้เราจึงอยากแนะนำวิธีพาคนไปบำบัดยาเสพติดด้วยการโน้มน้าวใจ เป็นวิธีที่จะทำให้คนใกล้ตัวของคุณเข้ารับการบำบัดโดยที่ไม่รู้สึกเหมือนถูกผลักไสไล่ส่ง และไม่รู้สึกว่ากำลังเผชิญปัญหาอยู่ตัวคนเดียว มาร่วมศึกษาไปด้วยกันเลย
เราขอยกตัวอย่าง 5 วิธีการพูดโน้มน้าวใจเรื่องยาเสพติดกับคนใกล้ตัวของคุณที่มีปัญหาติดยาเสพติดหรือแอลกอฮอล์ด้วยเทคนิคดังต่อไปนี้ แต่อย่าลืมว่าก่อนที่คุณจะเข้าไปพูดโน้มน้าวใจ คุณควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการบำบัดยาเสพติดเสียก่อน เพื่อให้สามารถตอบคำถามและยกตัวอย่างผลดีที่ได้รับจากการบำบัดให้แก่ผู้ที่ติดยาเสพติดได้
วิธีแรกเลยในการพูดกับคนติดยาเสพติดคือเราไม่ควรใช้ถ้อยคำที่มาจากความโกรธโดยเด็ดขาด แม้เราอาจจะผ่านสถานการณ์อันแสนเลวร้ายมาก็ตาม การพูดคุยกับผู้ติดยาเสพติดคือการแสดงออกถึงความปรารถนาดี ไม่ใช่การผลักไส คุณต้องค่อย ๆ อธิบายถึงผลเสียจากยาเสพติดและผลกระทบที่เกิดขึ้นหากไม่เข้ารับการรักษา พร้อมกับเตือนใจตนเองอยู่เสมอว่าเขาไม่ได้เป็นคนติดยา แต่เขาคือผู้ป่วยที่ต้องได้รับการรักษา
คำต้องห้ามในการโน้มน้าวใจให้ผู้ป่วยเข้ารับการบำบัดคือการตีตราว่าการที่เขาติดยาเสพติดนั้นเป็นสิ่งที่ผิด เพราะถ้อยคำเหล่านั้นจะยิ่งสร้างกำแพงในจิตใจจนทำให้การโน้มน้าวใจยากที่จะประสบผลสำเร็จ ฉะนั้นเราต้องพยายามยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น และค่อย ๆ นำเสนอวิธีฟื้นฟูผู้ติดสารเสพติดให้กับเขาอย่างละมุนละม่อม
การเลิกยานั้นเต็มไปด้วยความทรมาน บางครั้งผู้ที่ติดยาเสพติดอาจพยายามเลิกด้วยตนเองแล้ว แต่ไม่เป็นผล และกลับไปเข้าสู่วงจรการเสพเช่นเดิม เพราะฉะนั้นการพูดคุยเพื่อพาผู้ติดยาเสพติดไปบำบัด ต้องทำให้เขาได้รู้ว่าเขาไม่ได้สู้อยู่เพียงลำพัง ยังมีคนรอบข้างที่พร้อมอยู่เคียงข้างเขาเสมอ ในขณะเดียวกันก็พยายามบอกเขาว่าการที่เขาติดยาเสพติดทำให้คุณรู้สึกอย่างไร ทำให้คุณเสียใจแค่ไหน เพื่อให้เขาเข้าใจคุณมากขึ้น
สถานที่ จังหวะ และเวลา ก็เป็นส่วนสำคัญต่อการโน้มน้าวใจเป็นอย่างมาก ไม่ใช่ว่าเราอยากจะพูดตอนไหนก็พูดได้เลย เพราะสภาพจิตใจของผู้ที่ติดยาเสพติดไม่ค่อยจะมั่นคงสักเท่าไหร่ ดังนั้นเราต้องรอในจังหวะที่เราพร้อมมากที่สุด ในสถานที่ซึ่งสามารถพูดคุยได้อย่างตรงไปตรงมา ไม่มีสิ่งเร้าที่ขัดการสนทนา จากนั้นก็ค่อย ๆ แนะนำให้เขาเข้ารับการบำบัด พร้อมอธิบายถึงวิธีบำบัดผู้ติดสารเสพติดให้กับเขาฟังทีละนิด ๆ จนกว่าเขาจะเปิดใจ
การโน้มน้าวเขาบ่อย ๆ เป็นส่วนสำคัญของเทคนิคการสื่อสารเพื่อการบำบัด การพูดคุยเพียงหนึ่งครั้งอาจไม่สามารถเปลี่ยนใจเขาได้ เพราะฉะนั้นอย่าเบื่อที่จะเริ่มต้นครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 ครั้งที่ 4 ไปอีกเรื่อย ๆ เพราะเทคนิคนี้เป็นการแสดงออกถึงความเป็นห่วงเป็นใย และแสดงเจตจำนงอันแน่วแน่ของคุณให้เขาได้เห็นว่าเราอยากให้เขาเลิกขาดจากยาเสพติดมากแค่ไหน แม้จะถูกปฏิเสธไปแล้วก็ตาม
เมื่อเราได้เข้าใจเกี่ยวกับเทคนิคการพูดโน้มน้าวเพื่อให้ผู้ป่วยยอมรับที่จะเข้ารับการรักษาแล้ว ต่อมาก็จะเป็นวิธีการพาคนไปบำบัดยาเสพติด ซึ่งขั้นตอนหลัก ๆ มีดังต่อไปนี้
เมื่อผู้ติดยาเสพติดตัดสินใจที่จะเข้ารับการบำบัดแล้ว สิ่งต่อมาที่คุณควรต้องตัดสินใจ คือเลือกว่าจะเข้าบำบัดกับสถานบำบัดที่ไหนดี โดยการเลือกนั้นจะต้องประเมินจากปัจจัยหลาย ๆ อย่าง อาทิ ความสะดวกของการเดินทาง งบประมาณที่มีเพื่อการรักษา เทคนิคหรือวิธีบำบัดรักษาผู้ติดสารเสพติดและความน่าเชื่อถือของสถานบำบัด คุณควรเลือกสถานบำบัดผู้ติดยาเสพติดให้เหมาะสมกับอาการของผู้ป่วย รวมถึงหาข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของการบำบัดของสถานบำบัดนั้นด้วย
หลังจากเลือกได้แล้วว่าต้องการบำบัดที่ไหน คุณต้องประเมินอาการของผู้เข้ารับการบำบัดเสียก่อน เพราะผู้ติดยาเสพติดมักจะมีปัญหาแทรกซ้อน ทั้งเรื่องของสุขภาพร่างกาย และสุขภาพจิต เพื่อให้สถานบำบัดสามารถประเมินอาการและวางแผนวิธีการฟื้นฟูผู้ติดสารเสพติดได้อย่างตรงจุดมากที่สุด
กระบวนการสุดท้ายคือการนำส่งผู้ป่วยเข้ารับการบำบัดตามวันเวลาที่นัดเอาไว้ ในกรณีที่เป็นสถานบำบัดแบบกินนอน ในช่วงแรกของการบำบัดญาติจะยังไม่สามารถเข้าเยี่ยมได้ โดยส่วนใหญ่แล้ว ญาติจะสามารถเข้ามาเยี่ยมได้หลังจากผ่านการบำบัดไปแล้วประมาณ 50% จากโปรแกรมทั้งหมด
หลังจากคุณเข้าใจถึงวิธีพาคนไปบำบัดยาเสพติดเรียบร้อยแล้ว ก็ยังมีในส่วนของขั้นตอนการเตรียมตัวอีกเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะช่วยให้คุณพร้อมเมื่อถึงเวลาการเข้ารับบำบัด ทุกอย่างจะราบรื่นไม่มีข้อติดขัดมากวนใจ เพียงคุณเตรียมพร้อมในสิ่งเหล่านี้เท่านั้น
สำหรับผู้ที่กำลังทนทุกข์ทรมานจากการติดยาเสพติดของคนข้างกาย อย่าปล่อยให้เขาอยู่ในช่วงเวลาที่ตกต่ำที่สุดเพียงลำพัง เพราะในวันหนึ่งอาจจะสายเกินไปที่จะฉุดเขากลับมาได้ ดังนั้นคุณควรเริ่มต้นเสียตั้งแต่ตอนนี้ หากคุณกำลังมองหาสถานบำบัดและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด ขอแนะนำให้คุณพาคนที่คุณรักเข้ามาบำบัดที่ Lighthouse สถานบำบัดและฟื้นฟูผู้ที่ติดยาเสพติดที่ตั้งอยู่ย่านชานเมืองของกรุงเทพ เราได้นำเอาหลักการบำบัดจากอเมริกามาปรับใช้กับผู้ป่วยในประเทศไทย ด้วยโปรแกรมบำบัดแบบตัวต่อตัวและดูแลอย่างใกล้ชิดจากผู้เชี่ยวชาญตลอด 24 ชั่วโมง มั่นใจได้ว่าคุณจะได้คนที่คุณรักกลับคืนมาอย่างแน่นอน
Lighthouse Human Services & Consulting, Co., Ltd.
Head Office:
Ramkamheng 118
Saphan Sung, Bangkok 10240
Thailand