หลังจากประเทศไทยปลดล็อกใบกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติดประเภท 5 ในปี 2564 กระแสความนิยมในการใช้พืชชนิดนี้ก็กลับมาอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเคี้ยวใบสด หรือต้มน้ำดื่ม โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้แรงงานที่ใช้เป็น “ยาชูกำลัง” เนื่องจากมีฤทธิ์ช่วยลดการอักเสบ บรรเทาอาการปวดเมื่อย ทำให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ทนแดด ทนงานหนักได้ แต่ในขณะเดียวกันก็มีข้อเสียของน้ำกระท่อมที่ไม่ควรมองข้าม เพราะสารออกฤทธิ์บางชนิดส่งผลโดยตรงต่อระบบประสาท อาจทำให้เกิดอาการเสพติดและมีอาการถอนรุนแรงเมื่อหยุดใช้ ก่อนคิดจะลอง เราจึงอยากให้คุณตระหนักถึง 10 โทษของกระท่อม เพื่อให้รู้เท่าทันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
กระท่อม มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Mitragyna speciosa (Korth.) เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ใบเป็นทรงรียาว ปลายแหลม ในประเทศไทยพบมากทางภาคใต้ และบางพื้นที่ของภาคกลาง เช่น ปทุมธานี นนทบุรี โดยมีชื่อเรียกแตกต่างกันตามภูมิภาค เช่น ท่อม, อีทั่ง, อีด่าง, อีแดง, กระอ่วม ประโยชน์ของใบกระท่อมถูกนำมาใช้เป็นยาสมุนไพรตั้งแต่สมัยโบราณ ช่วยแก้อาการท้องเสีย ท้องร่วง ลดไข้ บรรเทาอาการไอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เนื่องจากมีสารสำคัญคือ ไมทราไจนีน (Mitragynine) ซึ่งมีฤทธิ์ในการบรรเทาอาการปวดและต้านการอักเสบคล้ายมอร์ฟีน แต่อันตรายน้อยกว่า
อย่างไรก็ตามหากใช้ในปริมาณมากหรือติดต่อกันเป็นเวลานาน จะทำให้เสพติดและเกิดผลข้างเคียง เช่น กระสับกระส่าย หัวใจเต้นเร็ว เหงื่อออกมาก ปากแห้ง เวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียน ปัสสาวะบ่อย นอนไม่หลับ หนาวสั่นคล้ายคนเป็นไข้ โดยเฉพาะการนำไปผสมน้ำอัดลมและยาแก้ไอที่มีส่วนผสมของโคเดอีน (Codeine) เป็นเครื่องดื่มที่เรียกว่า “สี่คูณร้อย” ซึ่งกำลังฮิตในกลุ่มวัยรุ่น จะออกฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท ทำให้มีอาการเมา เคลิบเคลิ้ม ใจสั่น และอาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้
อาการเมาใบกระท่อม มีลักษณะคล้ายอาการเมาที่เกิดจากสาร THC (Tetrahydrocannabinols) ที่พบในกัญชา ส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติ กล้ามเนื้อการทรงตัว และระบบประสาทสัมผัส ทำให้มีอาการตัวสั่น มือสั่น หัวใจเต้นเร็ว รู้สึกหนาว ตัวเย็น แขนขาอ่อนแรง เดินเซ ทรงตัวไม่อยู่ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว เวียนหัว และอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุหรือการทะเลาะวิวาทที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บตามมาได้
ผลข้างเคียงการดื่มน้ำกระท่อมติดต่อกันเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดความผิดปกติของเม็ดสีผิว ประกอบกับการที่ร่างกายมีความทนทานต่อแสงแดดมากขึ้น ผู้ที่ดื่มน้ำกระท่อมจึงใช้เวลาอยู่กลางแดดนานขึ้นโดยไม่รู้สึกแสบผิว ทำให้ผิวหนังบริเวณต่างๆ มีสีเข้มขึ้นหรือเป็นปื้นดำ ไหม้เกรียม เช่น ใต้ตา โหนกแก้ม หน้าผาก หลังคอ หลังมือ แผ่นหลัง
กินน้ำกระท่อมผลเสียต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด ทำให้เกิดความผิดปกติต่างๆ เช่น หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ หัวใจเต้นผิดจังหวะ ความดันโลหิตสูง ไปจนถึงหัวใจหยุดเต้น โดยข้อมูลจาก America’s Poison Centers ระบุว่า ผู้เสพกระท่อมที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป มีอาการหัวใจเต้นเร็วผิดปกติประมาณ 22.5% ในขณะที่กลุ่มผู้สูงอายุ 60 – 69 ปี พบปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระบบหัวใจและหลอดเลือด 36.8% และสูงถึง 51.9% ในกลุ่มผู้ที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป
ผู้ที่เสพกระท่อมมักมีความเชื่อว่า การเคี้ยวและกลืนกากเข้าไปทั้งหมดจะทำให้ฤทธิ์ของกระท่อมอยู่ได้นาน แต่จริงๆ แล้วใบกระท่อมมีส่วนที่ร่างกายไม่สามารถย่อยได้ หากกินเข้าไปทั้งใบหรือต้มเป็นน้ำแล้วกรองไม่ดี จะทำให้เกิดอาการท้องผูก อุจจาระแข็ง และเมื่อกินติดต่อกันเป็นเวลานาน กากใยที่ย่อยไม่ได้จะตกค้างอยู่ในลำไส้และจับตัวกันเป็นก้อนแข็ง ส่งผลให้ลำไส้อุดตันหรือที่เรียกว่า “ภาวะถุงท่อม”
ไมทราไจนีนในกระท่อม ออกฤทธิ์ยับยั้งการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร จึงทำให้ผู้ที่กินใบกระท่อมไม่รู้สึกหิว ไม่อยากอาหาร ทำให้ร่างกายซูบผอม น้ำหนักลด และขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อระบบการทำงานต่างๆ ของร่างกาย
ไมทราไจนีนยังออกฤทธิ์กดประสาทส่วนกลางเช่นเดียวกับยาบ้า, LSD และไซโลไซบิน (Psilocybin) ซึ่งเป็นสารหลอนประสาทที่พบในเห็ดเมา โทษของน้ำกระท่อมจึงทำให้มีอาการมึนงง สับสน ขาดสติ หากใช้ในระยะยาว อาจทำให้เกิดอาการหลงผิด หวาดระแวง เห็นภาพหลอน หูแว่ว คิดว่ามีคนจะมาทำร้าย
ผู้ที่ตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร ควรหลีกเลี่ยงการใช้กระท่อมอย่างเด็ดขาด เนื่องจากสารในกระท่อมสามารถส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ได้ ทำให้เด็กที่คลอดออกมามีอาการถอนยาได้ นอกจากนี้เด็กก็ไม่ควรใช้กระท่อมเช่นกัน เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ง่าย เช่น ลมชัก อาการทางจิตและประสาท พัฒนาการช้า อีกทั้ง พ.ร.บ.พืชกระท่อม พ.ศ. 2565 มาตรา 24 ยังระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ห้ามผู้ใดขายใบกระท่อม หรืออาหารที่มีใบกระท่อมเป็นวัตถุดิบหรือส่วนประกอบแก่บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี สตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร ผู้ที่ฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท
การกินใบกระท่อมสดตามหลักแพทย์แผนไทย สามารถกินครั้งละ 1 – 2 ใบ วันละ 1 – 2 ครั้ง หรือใช้ใบสด 3 – 4 ใบ ต้มกับน้ำสะอาด ดื่มครั้งละ 1 แก้ว วันละ 3 ครั้ง ปริมาณรวมไม่ควรเกินวันละ 5 ใบ หรือประมาณ 5 กรัม ในผู้ที่กินกระท่อมมากกว่า 15 กรัม อาจเกิดพิษเฉียบพลัน ทำให้มีอาการใจสั่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง เห็นภาพหลอน หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง หรือง่วงซึมมาก
ผลข้างเคียงน้ำกระท่อมเมื่อผสมกับยาเสพติด แอลกอฮอล์ หรือตัวยาชนิดอื่นๆ เช่น ยาแก้ไอที่มีส่วนผสมของโคเดอีน, ยาโปรเมทาซีน (Promethazine), ยาทรามาดอล (Tramadol) จะทำให้เกิดอันตรายจากการออกฤทธิ์เสริมกัน โดยไปกดการทำงานของระบบประสาท และระบบหายใจ ทำให้เกิดอาการชัก หมดสติ หายใจไม่ออก ระบบหายใจล้มเหลว ไตวาย และเสียชีวิตได้
สรรพคุณใบกระท่อมช่วยให้รู้สึกสดชื่น ตื่นตัว มีแรงทำงาน บางคนจึงใช้เป็นประจำต่อเนื่องทุกวันจนเกิดอาการติด และเมื่อหยุดใช้กะทันหันก็จะเกิดอาการลงแดง เช่น รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง ปวดกล้ามเนื้อและกระดูก ง่วงซึม ซึมเศร้า บางรายมีอาการหงุดหงิด ก้าวร้าว กระวนกระวาย อยู่ไม่สุข แขนขากระตุก ซึ่งผู้เสพที่ทนต่ออาการไม่ได้ ก็จะกลับไปเสพซ้ำอีก
หากถามว่าการปลูก ซื้อ ขาย ใบกระท่อมถูกกฎหมายหรือยัง ก็ต้องบอกว่าถูกกฎหมายแล้ว แต่เฉพาะใบสด ลำต้น เมล็ด เท่านั้น ส่วนการซื้อ ขาย น้ำใบกระท่อมผิดกฎหมายหรือไม่ ถือว่ายังผิดอยู่ เนื่องจากเป็นหนึ่งในรายการอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย ตาม พ.ร.บ. อาหาร สามารถต้มดื่มเอง หรือแจกจ่ายได้ แต่ห้ามจำหน่าย หรือผสมสารเสพติดชนิดอื่น โทษปรับใบกระท่อมสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืน จำคุก 6 เดือน – 2 ปี และมีโทษปรับ 5,000 – 20,000 บาท
อย่างไรก็ตามคนที่ไม่เคยใช้ก็ไม่แนะนำให้ลอง เพราะแม้จะมีสรรพคุณทางยาที่เป็นประโยชน์ แต่หากใช้ผิดวิธี หรือใช้เกินขนาด ก็อาจกลายเป็นโทษได้ สำหรับผู้ที่มีอาการติดและต้องการเลิกแบบไม่ทรมาน
สถานฟื้นฟูไลท์เฮ้าส์ (Lighthouse) คือสถานที่ที่พร้อมดูแลคุณอย่างครบวงจร ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการฟื้นฟูผู้ติดสารเสพติด เรามีโปรแกรมการบำบัดเฉพาะบุคคลที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ป่วยแต่ละคน ทั้งการบำบัดทางร่างกายและจิตใจในบรรยากาศที่เป็นส่วนตัวและปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีการติดตามผลอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ป่วยจะกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน นอกจากนี้ เรายังจัดกิจกรรมบำบัดแบบกลุ่มเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจและสร้างแรงบันดาลใจในการเลิกใช้สารเสพติดอย่างถาวร เรามีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันในบรรยากาศที่สงบและผ่อนคลาย เพื่อให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายใจในระหว่างการฟื้นฟู สนใจสอบถามเพิ่มเติมหรือนัดหมายเพื่อเข้ารับคำปรึกษา ติดต่อได้ที่เบอร์ 085-213-2179 เพราะทุกก้าวที่คุณเริ่มต้น เราพร้อมเดินเคียงข้างคุณเสมอ
References
กองควบคุมวัตถุเสพติด. 2023. “กระท่อม (Kratom)” เข้าถึงได้จาก https://narcotic.fda.moph.go.th/information-about-drugs/kratom
Catherine W Striley, et al., 2022 “Health Effects Associated With Kratom (Mitragyna speciosa) and Polysubstance Use: A Narrative Review” เข้าถึงได้จาก https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC9130800/
Hfocus. 2021. “เปิดความรู้ “ใบกระท่อม” กินดื่มอย่างไร ถูกกฎหมาย พร้อมสรรพคุณทางแพทย์แผนไทย” เข้าถึงได้จาก https://www.hfocus.org/content/2021/10/23548 วุฒิเชษฐ รุ่งเรือง. “พิษวิทยาของพืชกระท่อม” เข้าถึงได้จาก https://kratom.sci.psu.ac.th/wp-content/uploads/2021/09/พิษวิทยาของพืชกระท่อม.pdf
Lighthouse Human Services & Consulting, Co., Ltd.
Head Office:
Ramkamheng 118
Saphan Sung, Bangkok 10240
Thailand