ยาไอซ์ เป็นยากระตุ้นประสาท มันส่งผลทำให้เกิดสมาธิสั้น และทำให้รู้สึกง่วงในช่วงเวลาที่ไม่ปกติ นอนไม่หลับ บางครั้งถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์เพื่อรักษาโรคความผิดปกติอื่น ๆ
ยาเดกซ์โตรแอมเฟตามีน (Dextroamphetamine) และ เมทแอมเฟตามีน (Methamphetamine) ล้วนแล้วแต่เป็นยาบ้า หรือยาไอซ์ทั้งสองประเภท บางครั้งถูกนำมาขายกันอย่างผิดกฎหมาย ยาทั้งสองชนิดนี้สามารถได้รับจากแพทย์โดยตรง หรือซื้อขายกันตามท้องถนนได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะถูกนำไปใช้งานในทางที่ผิด และทำให้เกิดความผิดปกติได้ ยาเมทแอมเฟตามีนเป็นยาแอมเฟตามีน ที่มีการนำมาใช้งานในทางที่ผิดกันมากที่สุด
อาการติดยาไอซ์ จะเป็นความผิดปกติประเภทหนึ่งที่เกิดจากการกระตุ้น เกิดขึ้นเมื่อคุณต้องการใช้ยาช่วยในการทำงานทุกวัน คุณจะเลิกยาได้หากคุณสามารถพึ่งพาตัวเองได้ และหยุดใช้ยาอย่างทันที
การใช้ยาไอซ์เป็นประจำ และใช้เป็นเวลานานสามารถทำให้เกิดอาการติดได้
บางคนสามารถติดยาไอซ์ได้เร็วกว่าคนอื่น ๆ
คุณอาจติดยาได้หากคุณใช้ยาเหล่านี้ โดยที่แพทย์ไม่ได้สั่งจ่ายยาให้กับคุณ คุณยังอาจติดยาได้หากคุณใช้งานนาน เกินกว่าที่แพทย์สั่งจ่ายยาให้กับคุณ มันอาจกลายเป็นการใช้ยาที่ผิดปกติได้ แม้ว่าคุณจะใช้ยาแอมเฟตามีนตามที่แพทย์สั่งก็ตาม
คุณอาจมีความเสี่ยงต่อการใช้ยาที่ผิดปกติได้หากคุณ:
สามารถหายาไอซ์มาใช้ได้อย่างง่ายดาย
มีภาวะซึมเศร้า โรคไบโพล่า วิตกกังวล หรือโรคจิตเภท
มีการดำรงชีวิตที่มีความเครียด
หากคุณมีอาการติดยาไอซ์ คุณอาจมีอาการเหล่านี้:
ความรู้สึกหลอน เช่น มีความรู้สึกเหมือนกับว่ามีบางอย่างกำลังไต่อยู่บนผิวหนังของคุณ
ในการตรวจสอบความผิดปกติจากการใช้ยาแอมเฟตามีน แพทย์ของคุณจะถามคำถามว่าใช้ยาไอซ์ไปมากแค่ไหน และนานแค่ไหน
คุณอาจมีความผิดปกติจากการใช้ยาไอซ์ หากคุณมีอาการ3อย่างขึ้นไปดังต่อไปนี้ภายในระยะเวลา 12 เดือน:
คุณมีความอดทนเพิ่มขึ้นหากคุณต้องการใช้ยาไอซ์ในปริมาณมากเพื่อให้ได้รับผลในแบบเดียวกันเมื่อลดปริมาณการใช้ยาลง
คุณพลาดหรือไม่ไปร่วมกิจกรรมสันทนาการ การเข้าสังคม หรือกิจกรรมต่าง ๆ เกี่ยวกับงานที่คุณทำอันเนื่องมาจากการใช้ยาไอซ์
วิธีเลิกยาไอซ์ในไทย และการรักษาความผิดปกติต่างๆจากการใช้ยา โดยวิธีเลิกยาไอซ์สามารถผสมผสานสิ่งต่างๆเหล่านี้เข้าด้วยกัน:
แพทย์ของคุณอาจสั่งจ่ายยาเพื่อบรรเทาอาการของการเลิกยา แพทย์บางคนอาจสั่งจ่ายยา นาลเทรกโซน (naltrexone) ให้กับคุณเพื่อช่วยลดความต้องการใช้ยาของคุณ แพทย์ของคุณอาจสั่งจ่ายยาอื่นเพื่อช่วยลดอาการวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า และอารมณ์รุนแรงของคุณ
การติดยาไอซ์เป็นประจำ และความผิดปกติจากการใช้ยาสามารถนำไปสู่:
การใช้ยาเกินขนาด
สมองเกิดความเสียหาย รวมไปถึงอาการที่คล้ายกลับโรคอัลไซเมอร์ ลมชัก หรือโรคหลอดเลือดสมอง และเสียชีวิต
โปรแกรมการศึกษาด้านยาเสพติดอาจสามารถช่วยลดโอกาสการเกิดผู้ใช้ยารายใหม่ หรืออาการกำเริบ แต่มีผลการศึกษามากมายรวมกัน การให้คำปรึกษาด้านอารมณ์ และความช่วยเหลือจากครอบครัวสามารถช่วยได้ แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าจะสามารถช่วยป้องกันไม่ให้คนหันมาใช้ยาไอซ์
ความผิดปกติจากการใช้ยาไอซ์อาจทำให้รักษาได้ยาก คุณอาจมีอาการกำเริบหลังจากการรักษา และเริ่มหันกลับไปใช้ยาอีกได้
การเข้าร่วมโปรแกรมทีละขั้นตอน และการรับคำแนะนำเป็นรายบุคคลอาจช่วยลดโอกาสของการเกิดอาการกำเริบ และช่วยเพิ่มโอกาสในการฟื้นฟูของคุณได้
หากคุณมีปัญหาในการใช้เมทแอมเฟตามีน หรือยาไอซ์ และหากอยากเลิกยาไอซ์ แนะนำให้เริ่มต้นจากขอคำปรึกษาหรือกำลังใจจากคนใกล้ตัว และเราทราบว่าการเลิกยาไอซ์เพียงลำพังจะค่อนข้างยากและอันตราย เนื่องจากคุณต้องรับมือกับอาการขาดยา ที่ส่งผลกระทบต่อทั้งร่างกายและจิตใจของคุณ อาการทรมานที่จะเกิดขึ้นอาจทำให้คุณมีอารมณ์หรือความคิดที่เปลี่ยนไปอย่างรุนแรง ส่งผลให้คุณมีพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อคุณเองหรือคนรอบข้างโดยไม่รู้ตัว หากคุณสนใจเลิกยาเสพติดโทร ติดต่อเรา ทางเรามีโปรแกรมรักษาอาการติดยาไอซ์จากผู้เชี่ยวชาญ และผลิตภัณฑ์เลิกยาเสพติดที่ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในการช่วยเหลือคุณ
บทความนี้เป็นในส่วนของหลายๆเรื่องราวที่เกี่ยวกับยาไอซ์ หากต้องการกลับไปอ่านเนื้อหาเกี่ยวกับที่มาให้คลิกที่นี่:
ยาไอซ์คืออะไร
มีการศึกษาและงานวิจัยในต่างประเทศ ระบุว่า หนึ่งในสามของผู้ที่ใช้ยาเสพติด จะพบปัญหาเกี่ยวกับโรคทางจิต และยังระบุเพิ่มเติมอีกว่าผู้ที่ใช้ยาไอซ์บ่อยขึ้นและมากขึ้น จะมีแนวโน้มที่จะเป็นมากขึ้นเช่นกัน โรคทางจิตหรือโรคจิต หมายถึงอาการทางจิตต่างๆ รวมถึงความหวาดระแวง ความสงสัย เห็นภาพหลอน กระวนกระวายใจ หรือวิตกกังวล ซึ่งเขาเหล่านี้อาจจะไม่สามารถแยกแยะหรือเชื่อมโยงกับความเป็นจริงที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนั้นได้ เป็นผลเนื่องมากจากฤทธิ์ของยาไอซ์ ที่จะออกฤทธิ์กระตุ้นต่อจิตประสาทซึ่งมีฤทธิ์ที่รุนแรง และอันตราย ผลข้างเคียงจากความสุขที่ได้รับก็คือ จะมีความหวาดระแวง, หงุดหงิดรุนแรง,อารมณ์แปรปรวน ซึ่งอาจเกิดมาจากอาการประสาทหลอน หรือเห็นภาพลวงตา ที่อาจจะน่ากลัว ถึงแม้ว่าบางครั้งยาจะหมดฤทธิ์แล้วแต่อาการเหล่านี้ก็อาจจะยังคงอยู่
ในสมองของคนเรา จะมีสารแห่งความสุขที่เรียกกันว่าโดปามีน โดยสารเหล่านี้จะถูกปล่อยออกมาในระหว่างการทำกิจกรรมต่างๆ เช่นการรับประทานอาหาร,การมีเพศสัมพันธ์,การออกกำลังกาย หรือแม้กระทั่งการเล่นการพนัน เมื่อโดปามีนหลั่งออกมา จะกระตุ้นให้ร่างกายต้องการทำสิ่งนั้นมากขึ้น ด้วยความมั่นใจ และมีความสุขเพิ่มขึ้น ทีนี้ในส่วนของยาไอซ์ ยาไอซ์จะเข้าไปทำงานในระบบของสมอง โดยการทำให้สมองปล่อยสารโดปามีนออกมามากขึ้น ทำให้ผู้เสพมีความรู้สึกเป็นสุข,สนุกสนานร่างกายจะรู้สึกโหยหาและมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง หากไม่ได้รับเหมือนเช่นเคย จะส่งผลให้ความสุขลดลง นำไปสู่ภาวะเซื่องซึม หดหู่ หมดความสนใจที่จะทำกิจกรรมอย่างอื่น สมองจะเรียกร้องให้เกิดการหลั่งของสารโดปามีนแบบเดิมอีก โดปามีนที่เกิดจากการใช้ยาไอซ์นั้นสูงกว่าปริมาณโดปามีนตามธรรมชาติ ที่สมองผลิตขึ้นเอง ทำให้คนเลือกที่จะใช้ยาต่อไป เพราะเริ่มติดความรู้สึกพึงพอใจที่ได้รับจากยา จนผู้เสพต้องหันมาพึ่งพายาไอซ์อีกครั้ง เพื่อสร้างความสุขในรูปแบบเดิม โดปามีนจึงเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ติดยาไอซ์ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ และในระยะยาว การใช้ยาไอซ์หรือสารที่กระตุ้นการหลั่งของโดปามีนเป็นประจำ จะทำให้โดปามีนในสมองถูกทำลาย จนผู้ที่ใช้ยาไม่รู้สึกปกติอีกต่อไป
ถ้าหากคุณมีความต้องการที่จะเลิกเสพยาไอซ์คุณควรเริ่มจาก
เนื่องจากการเสพยาไอซ์เป็นเวลาต่อเนื่องจะส่งผลต่อทั้งร่างกายและจิตใจ ในกรณีที่มีการถอนยา อาการที่แสดงออกอาจจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการใช้ยาที่ผ่านมา หรืออาจจะขึ้นอยู่กับปริมาณยาที่เคยใช้ หรือปัจจัยอื่นๆแต่โดยส่วนมาก อาการจากการถอนยาไอซ์ที่แสดงให้เห็นก็จะมี
โดยทั่วไปหากมีการหยุดเสพยาไอซ์กระทันหันร่างกายจะมีการถอนยา และต้องมีการปรับตัวเพื่อให้ทำงานได้โดยที่ไม่ต้องใช้ยาโดยระยะเวลาอาจจะอยู่ที่ประมาณ2-3สัปดาห์
เนื่องจากผู้ที่ใช้ยาเสพติด จะจดจำความสุขที่ได้รับจากการใช้ยา หากต้องการถอนยาเสพติดหรือเริ่มหยุดใช้ยาไอซ์ มันอาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับเขา เพราะเขาจะต้องต่อสู้กับปฏิกิริยาของร่างกายที่จะเกิดขึ้น หลังจากเริ่มถอนยา ที่ไม่ว่าจะเป็น อาการอ่อนเพลีย ปวดหัว วิตกกังวล หรือหวาดระแวง รวมถึงอาการอยากยาที่จะรบกวนทั้งร่างกายและจิตใจ การเอาชนะยาเสพติดเพียงคนเดียวจึงอาจเป็นเรื่องยากสำหรับเขา หากนั่นเป็นคนที่คุณรัก หรือคนรู้จักสำหรับคุณคุณควรที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือพวกเขาเหล่านั้น ในช่วงเวลาที่เขากำลังจะถอนยาไอซ์ อาจเริ่มจากการทำความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับยาไอซ์ ,ดูแลตัวคุณเองให้มีความพร้อมเกี่ยวกับการรับมือกับผู้ติดยา ให้พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ หากเมื่อคุณพร้อมแล้ว คุณก็จะเริ่มดูแลผู้อื่นได้ หลังจากนั้นคุณควรให้กำลังใจผู้ที่ถอนยาให้มากๆ และต้องให้เขารู้ว่า ไม่มีคำว่าสายเกินไปที่จะเลิกยา สิ่งที่คุณไม่ควรทำก็คือ การตำหนิ หรือต่อว่าให้เขารู้สึกละอาย เนื่องจาก หากเขารู้สึกว่ากำลังถูกทำร้ายไม่ว่าจะด้วยคำพูด หรือท่าทาง เขาอาจจะเริ่มปลีกตัวหรือหนีห่างจากคุณ ซึ่งอาจจะให้การเลิกยาไม่ประสบความสำเร็จ แต่หากเขาให้ความร่วมมือ คุณอาจจะต้องสังเกตอาการการถอนยาของเขาเรื่อยๆ แต่หากเริ่มมีอาการรุนแรงมากขึ้น ซึ่งบางครั้งอาจส่งผลอันตรายอย่างมากต่อร่างกาย แนะนำให้คุณติดต่อแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือสถานบำบัดยาเสพติด เพื่อที่จะรักษาอาการของเขาได้อยากถูกต้องและปลอดภัย
การเลิกยาเสพติดด้วยตัวเอง บางท่านที่มีจิตใจเข้มแข็ง อาจจะประสบความสำเร็จสามารถเลิกได้ แต่อาจจะไม่เหมาะสำหรับทุกคน เนื่องจากสารเสพติดที่ได้รับเข้าไปในร่างกายของแต่ละคน จะออกฤทธิ์ไม่เหมือนกัน และบางครั้งความรุนแรงของสารเสพติด จะขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการใช้ยาที่ผ่านมาอีกด้วย หากมีการเลิกยาหรือหยุดยากระทันหัน ไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดอันตรายกับร่างกาย แต่อาจจะส่งผลไปถึงจิตใจได้ นอกจากนี้บางท่านที่พยายามเลิกยาด้วยตนเอง จะต้องเผชิญกับความอยากยา ความทรมาน จนอาจถึงขั้นลงแดง ซึ่งบางครั้งอาจจะทนไม่ไหวจนต้องหันกลับไปพึ่งยาอีกครั้ง วนซ้ำเป็นรูปแบบเดิม
เนื่องจากการ บำบัดรักษาผู้ที่ติดยาเสพติดในแต่ละท่านจะมีวิธีการที่แตกต่างกัน สถานบำบัดจึงเป็นทางเลือกที่ดี ที่ท่านจะเข้ารับการบำบัดรักษากับทางสถานบำบัดโดยตรง เพราะจะมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล ,ประเมินผล และบำบัดตามโปรแกรมการรักษา ของแต่ละท่าน ซึ่งในส่วนนี้จะส่งผลให้การเลิกยามีประสิทธิภาพมากขึ้น และนอกจากนี้ ในระหว่างการถอนยาบางท่านอาจประสบปัญหาทางสุขภาพจิตได้ ซึ่งอาจจะต้องได้รับการดูแลมากขึ้น รวมถึงการให้ยาจากแพทย์เพื่อลดความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น การได้รับการบำบัดรักษาที่ถูกต้องถูกวิธี จะช่วยให้ผู้บำบัดมีความปลอดภัย และลดอันตรายจากการเลิกยาได้มากกว่าการหักดิบด้วยตนเอง
บทความนี้เป็นในส่วนของหลายๆเรื่องราวที่เกี่ยวกับยาไอซ์ หากต้องการกลับไปอ่านเนื้อหาเกี่ยวกับที่มาให้คลิกที่นี่:
ยาไอซ์คืออะไร
แน่นอนว่าจะมีความทุกข์เกิดขึ้นภายในครอบครัวของคุณ หากคนที่คุณรัก หรือคนรู้จักมีการใช้ยาเสพติด ไม่ว่าจะเป็นชนิดใดก็ตาม นอกจากจะเป็นความทุกข์จากความรัก ความห่วงใยแล้ว อาจมีปัญหาในเรื่องของการทะเลาะเบาะแว้งเพิ่มขึ้น มีปัญหาเรื่องการเงิน เกิดความแตกแยกในครอบครัว และมีผลสำรวจว่าผู้ติดยาเสพติดมีอัตราการหย่าร้างสูงมากกว่าบุคคลทั่วๆไปด้วย
ผลกระทบจากการใช้ยาไอซ์ที่เห็นได้ชัดเจนคือ ผู้เสพอาจจะมีผิวพรรณซีดเซียว, ผิวแห้ง ดำคล้ำหากเสพติดเป็นเวลานาน หรืออาจเป็นโรคผิวหนัง รวมถึงมีการติดเชื้อ, มีเหงื่อออกมา,ริมฝีปากแห้ง, น้ำหนักลด และมีปัญหาในช่องปาก
หากมีการเสพยาไอซ์เข้าสู่ร่างกาย การออกฤทธิ์ของยาจะนานประมาณ8ถึง 24 ชั่วโมง และจะยังมีสารตกค้างอยู่ในร่างกาย ซึ่งหากทำการตรวจหาสารในร่างกายจะยังพบได้ใน1-3วัน หลังจากเสพ และถ้าหากว่ามีใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่องจะตรวจพบได้นานสูงสุดถึง 3 สัปดาห์เลยทีเดียว
ยาไอซ์จะส่งผลให้ร่างกายตื่นตัว ไม่เหนื่อย ไม่ง่วง นอนไม่หลับ เสมือนเป็นยาช่วยเพิ่มพลังให้แก่ผู้เสพ แต่การใช้ยาอย่างต่อเนื่อง จะทำให้เกิดภาวะทนต่อยา ทำให้ผู้เสพพยายามเพิ่มปริมาณหรือความถี่ในการใช้ บางรายมีการเปลี่ยนวิธีการเสพที่รุนแรงขึ้น เพียงเพื่อต้องการให้ได้รับความสุขจากการเสพเท่าเดิม หรือเพียงเพื่อให้เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น แต่อาจเป็นการทำให้ร่างกายได้รับอันตรายจากยามากกว่าเดิม โดยที่ไม่รู้ตัว
การเสพยาไอซ์ต่อเนื่องมีผลต่อระบบหัวใจ และหลอดเลือดแน่นอน เพราะยาจะกระตุ้นการทำงานของหัวใจ ทำให้หัวใจเต้นเร็ว มีอาการใจสั่น เพิ่มความดันโลหิต และอาจส่งผลให้ระบบการไหลเวียนของเลือดล้มเหลว นอกจากนี้อาจกระทบต่อระบบการเดินหายใจ มีอาการเจ็บหน้าอก และการได้รับยาในปริมาณที่มากขึ้น อุณหภูมิของร่างกายจะสูงขึ้นตามไปด้วย อาจทำให้มีอาการชัก กล้ามเนื้อเกร็ง ก่อให้เกิดภาวะเส้นเลือดในสมองแตก มีเลือดออกในสมอง และการเต้นผิดจังหวะของหัวใจอย่างรุนแรงอาจส่งผลถึงขั้นหัวใจวาย และทำให้เสียชีวิตลงได้
ผู้ที่เสพยาอย่างต่อเนื่องมักจะประสบปัญหาคล้ายๆกันคือ ปัญหาฟันผุอย่างถาวร หรือที่เรียกว่า อาการ “Meth Mouth “ซึ่งจะมีอาการหนักกว่าโรคฟันผุทั่วๆไป มีการลุกลามไปทั่วทั้งปาก มีการเปลี่ยนสีของฟัน จนอาจจะเป็นสีดำ มีอาการฟันโยก จนกระทั่งฟันหลุดร่วง
และคุณรู้หรือไม่ว่าสาเหตุหนึ่งก็มาจากฤทธิ์ของยาด้วยเช่นกัน? โดยฤทธิ์ของยาจะทำให้การหลั่งของน้ำลายลดลง จะส่งผลให้ขาดตัวช่วยที่ลดความเป็นกรดที่ผิวฟัน ที่เกิดมาจากคราบจุลินทรีย์ จึงเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาฟันผุ และเนื่องจากผู้ที่เสพยาจะมีพฤติกรรมที่ละเลยเรื่องการทำความสะอาด จึงส่งผลให้โรคฟันผุลุกลามมากขึ้น และนอกจากนี้ผลของยาจะทำให้ผู้เสพมีพฤติกรรมกัดฟันแรงๆ หรือขบฟันอยู่ตลอดเวลา และหากผู้เสพเป็นโรคฟันผุอยู่แล้วก็จะทำให้ฟันแตกหักได้ง่าย
สารกระตุ้นประสาทจะออกฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของสมองส่วนกลาง ทำให้รู้สึกสดชื่น ตื่นตัว กระฉับกระเฉง แต่การใช้ยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง จะส่งให้มีการทำลายระบบสมอง มีความเปลี่ยนแปลงด้านอารมณ์ และส่งผลต่อสภาพจิตใจของผู้เสพ และเมื่อสมองถูกทำลาย ก็จะมีการสั่งการบังคับกล้ามเนื้อและระบบอื่นๆในร่างกายให้ทำงานผิดปกติไปด้วย ทีนี้แน่นอนว่า จะมีผลต่อพฤติกรรมการแสดงออกของบุคคลนั้นๆ ที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนด้วย นอกจากนี้อาจเริ่มมีอาการทางจิตควบคู่ไปด้วย ยกตัวอย่างอาการ เช่น
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นความรุนแรงของฤทธิ์ที่เกิดขึ้นกับร่างกายและจิตใจจะขึ้นอยู่กับปัจจัยอย่างอื่นด้วยเช่น วิธีการเสพ, ความถี่,และปริมาณของยาที่เสพ
ได้อย่างแน่นอน หากมีการใช้ยาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากยาไอซ์จะส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง ที่จะถูกกระตุ้นอย่างรุนแรง และยาเสพติดจะไปเร่งการหลั่งสารแห่งความสุข โดปามีน (Dopamine) ออกมามากกว่าปกติ ทำให้มีความสุข ความพึงพอใจอย่างมาก และรวดเร็ว แต่หากยาหมดฤทธิ์ลง ผู้เสพจะหงุดหงิด รู้สึกเป็นทุกข์ และต้องการใช้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งยาจะทำลายเซลล์สมอง เป็นสาเหตุให้เกิดอาการซึมเศร้าหลังจากที่มีการใช้ยา และเนื่องจากยาไอซ์เป็นยาเสพติดประเภทที่ออกฤทธิ์เร็วและแรง จึงก่อให้เกิดการเสพติดได้อย่างง่ายดาย ส่งผลเสียที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย จิตใจและอารมณ์ของผู้เสพ จึงมีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะก่อให้เกิดโรคซึมเศร้าต่อผู้ที่เสพยา
Lighthouse Human Services & Consulting, Co., Ltd.
Head Office:
Ramkamheng 118
Saphan Sung, Bangkok 10240
Thailand