ทำไม ยาแก้แพ้ฟาเทค จึงกลายเป็นยาเสพติดที่ต้องเฝ้าระวัง

การนำยารักษาโรคมาใช้เป็นสารเสพติดยังคงเป็นปัญหาที่พบอย่างต่อเนื่อง เพราะยาบางชนิดก็ไม่ได้ถูกจัดเป็นยาที่ถูกควบคุม จึงสามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายยาทั่วไป หนึ่งในนั้นคือ “ยาฟาเทค” ซึ่งจริงๆ แล้ว เป็นยาแก้แพ้ แต่วัยรุ่นบางกลุ่มนิยมนำไปผสมกับเครื่องดื่มหรือยาชนิดอื่นเพื่อให้เกิดความมึนเมา โดยไม่ได้ตระหนักเลยว่าการกระทำเช่นนี้อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต บทความนี้จะพามาทำความรู้จักกันว่าฟาเทคคือยาอะไร รวมถึงผลกระทบของการใช้ที่ผิดวิธี และแนวทางบำบัดฟื้นฟู พร้อมแล้วมาดูสาระสำคัญที่เรานำมาฝากกันวันนี้เลย

ฟาเทคคือยาอะไร ใช้แล้วอันตรายจริงไหม?

ฟาเทคหรือฟาเทคไซรัป คือ ชื่อทางการค้าของยาเซททิริซีน ไดไฮโดรคลอไรด์ (Cetirizine Dihydrochloride) ซึ่งเป็นยาต้านฮิสตามีนชนิดหนึ่งที่ใช้กันมานานในวงการแพทย์ สามารถบรรเทาอาการต่างๆ ที่เกิดจากการแพ้ เช่น น้ำมูกไหล ตาแดง เคืองตา คันจมูก คันคอ ลมพิษ ผื่นคันตามผิวหนังได้ โดยตัวยาจะออกฤทธิ์ไปยับยั้งการปล่อยสารฮิสตามีน (Histamine) ซึ่งเป็นสารที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อสิ่งแปลกปลอมที่กระตุ้นให้เกิดการแพ้ เช่น เกสรดอกไม้ ฝุ่นละออง อาหารทะเล ฯลฯ เมื่อระดับฮิสตามีนลดลง อาการแพ้ต่างๆ ก็จะทุเลาลงด้วย

ข้อดีคือ ฟาเทคเป็นยาที่ออกฤทธิ์ได้นานถึง 21 ชั่วโมง และผ่านเข้าไปยังสมองได้น้อยกว่า ทำให้ยาไม่ได้ออกฤทธิ์กดประสาทส่วนกลางมากนัก จึงไม่ค่อยทำให้เกิดอาการง่วงซึมเมื่อเทียบกับยาแก้แพ้รุ่นเก่าชนิดอื่น เช่น ไดเฟนไฮดรามีน (Diphenhydramine) หรือ โปรเมทาซีน (Promethazine) ผู้ที่นำไปเสพจึงคิดว่าปลอดภัย แต่เมื่อใช้อย่างผิดวิธีก็ทำให้เกิดอันตรายได้เหมือนกัน

รูปแบบการใช้ฟาเทคที่เสี่ยงอันตราย

ยาฟาเทคที่จำหน่ายในประเทศไทยมีทั้งรูปแบบยาเม็ดและยาน้ำ ส่วนที่หลายคนสงสัยว่าฟาเทคไซรัปคือยาอะไร? ใช่ยาชนิดเดียวกันหรือไม่? คำตอบคือเป็นยาชนิดเดียวกัน แต่ฟาเทคไซรัปอยู่ในรูปของยาน้ำที่มีการเติมน้ำเชื่อมลงไปเพื่อปรับรสชาติให้หวานขึ้น ช่วยให้เด็กๆ รับประทานได้ง่าย หรือผู้สูงอายุที่มีปัญหาในการกลืนเม็ดยาก็สามารถรับประทานได้เช่นกัน แต่คนบางกลุ่มก็อาศัยข้อดีเหล่านี้นำไปใช้อย่างผิดวิธี ไม่ว่าจะเป็น

  • การใช้ฟาเทคผสมเครื่องดื่ม หรือสารเสพติดอื่น

ผู้ที่นำฟาเทคมาใช้เสพ มักจะนิยมนำไปผสมกับเครื่องดื่ม เช่น สูตรฟาเทคไซรัปผสมโค้ก คือการนำฟาเทค 15-20 มล. ไปผสมกับน้ำอัดลม 1.5 ลิตร และใส่น้ำแข็งดื่ม จะทำให้เกิดอาการมึนเมาคล้ายการดื่มแอลกอฮอล์ ในขณะที่บางคนก็ผสมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปเลย หรือที่ร้ายแรงกว่านั้นคือการนำฟาเทคไซรัปผสมเขียวเหลืองหรือยาแก้ปวดที่ออกฤทธิ์กดประสาทและทำให้เกิดการเสพติด ดื่มไปแล้วอาจทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายอย่างรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ 

  • การใช้ฟาเทคเกินขนาด

แม้จะเป็นยาที่มีผลข้างเคียงน้อย แต่การกินฟาเทคเกินขนาดที่แนะนำ จะด้วยความตั้งใจหรือเสพติดจนทำให้ต้องเพิ่มปริมาณยามากขึ้นก็ตาม อาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ เช่น กระสับกระส่าย หงุดหงิด ง่วงซึมอย่างรุนแรง ชัก หมดสติ และอาจเสียชีวิตได้ 

ทำไมฟาเทคจึงกลายมาเป็นชนวนยาเสพติด

โดยปกติแล้ว ยาฟาเทคไซรัปไม่ได้กินแล้วทำให้เกิดอาการเสพติด แต่วัยรุ่นบางกลุ่มมีความเชื่อผิดๆ ว่า กินแล้วจะทำให้รู้สึกผ่อนคลายและไม่เกิดอาการแฮงก์ จึงนำฟาเทคผสมกับน้ำอัดลม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือยา ตามสูตรต่างๆ ที่แพร่หลายในกลุ่มสังคมของตน ผลที่ได้จากการผสมนี้จะทำให้ผู้เสพเกิดอาการมึนเมา เคลิบเคลิ้ม ล่องลอย เหมือนอยู่ในฝัน ซึ่งเป็นอาการที่อาจทำให้รู้สึกดีในช่วงสั้นๆ แต่หากใช้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานหรือในปริมาณที่มากเกินไป ก็จะนำไปสู่ภาวะเสพติดในระยะยาวได้

ผลกระทบจากการติดฟาเทค

ยาแก้แพ้ฟาเทคถือเป็นยาที่มีความปลอดภัยสูง แต่เมื่อนำไปผสมกับเครื่องดื่ม สารชนิดอื่น หรือใช้ต่อเนื่องจนเสพติด อาจทำให้เกิดอาการที่ไม่พึงประสงค์ได้ ดังนี้

  • ผลข้างเคียงที่ไม่รุนแรง อาจทำให้เกิดอาการง่วงซึม มึนงง ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ ตาพร่า ปากแห้ง รู้สึกอ่อนเพลีย และท้องเสีย
  • ผลข้างเคียงรุนแรง ฟาเทคไซรัป ผลข้างเคียงรุนแรงมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมากหากใช้ถูกวิธี แต่เมื่อนำใช้แบบผิดๆ อาจทำให้หัวใจเต้นผิดปกติ มีอาการกระสับกระส่าย รูม่านตาขยาย ตัวสั่น นอนไม่หลับ ปัสสาวะไม่ออก มองเห็นภาพไม่ชัดเจน นอกจากนี้ผู้ที่นำฟาเทคไปใส่ในยาเขียวเหลืองผสมโค้ก อาจได้รับผลข้างเคียงของยาที่ออกฤทธิ์กดประสาทส่วนกลางมากขึ้น จนทำให้เกิดอาการชักเกร็ง และเสียชีวิตได้

แนวทางการป้องกันและรักษาอาการติดฟาเทค

หากสงสัยว่าฟาเทคไซรัปผิดกฎหมายไหม? การซื้อยาหรือใช้ยาฟาเทคโดยทั่วไปไม่ถือว่าผิดกฎหมาย เพราะฟาเทคจัดอยู่ในกลุ่มยาประเภทที่สามารถหาซื้อได้โดยไม่ต้องใช้ใบสั่งแพทย์ การป้องกันจึงเป็นเรื่องที่ผู้ใช้ต้องตระหนักด้วยตัวเองว่า การนำไปใช้แบบผิดวิธี เช่น นำฟาเทคไซรัปผสมโค้ก สไปร์ท น้ำอัดลม หรือยาใดๆ ก็ตาม เพื่อเสพให้มึนเมา เป็นสิ่งที่อันตรายมาก ที่สำคัญ “อย่าลอง” โดยที่คิดว่าจะไม่ติดหรือไม่เป็นอะไร เพราะจุดเริ่มต้นของความคึกคะนอง อยากรู้อยากลอง มักจะนำไปสู่การเสพติดในที่สุด

และเมื่อพยายามลดหรือหยุดการใช้ฟาเทคไซรัป ก็อาจทำให้เกิดอาการถอนยา เช่น วิตกกังวล คัน นอนไม่หลับ เหงื่อออกมาก อารมณ์แปรปรวน คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ ซึ่งความรุนแรงและระยะเวลาของอาการจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน แต่ส่วนใหญ่อาการมักไม่รุนแรง เพียงแค่ผู้ป่วยบางรายทนไม่ไหวก็จะกลับไปใช้ยาอีก จึงควรค่อยๆ ปรับลดขนาดยาและอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างราบรื่น 

แนวทางการบำบัดและฟื้นฟูผู้ที่ติดฟาเทค

  • ปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินสภาวะของแต่ละบุคคลและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม 
  • ถอนพิษ เป็นกระบวนขจัดสารเสพติดออกจากร่างกาย ซึ่งต้องทำภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัย และอาจมีการใช้ยาอื่นๆ มาช่วยลดอาการถอนพิษยาเสพติดตามความเหมาะสม
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ น้ำเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายกำจัดสารต้านฮิสตามีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยบรรเทาอาการถอนยา ความรู้สึกไม่สบายตัว เช่น อาการคัน ความแห้งของผิวหนัง หรืออาการขาดน้ำที่มักพบในระหว่างกระบวนการถอนพิษได้
  • จัดการกับความเครียด โดยการทำกิจกรรมหรืองานอดิเรก เช่น ออกกำลังกาย ทำโยคะ ทำสมาธิ วาดรูป เล่นดนตรี ฯลฯ จะช่วยให้สมองผ่อนคลายและลดความต้องการเสพยาได้
  • บำบัดพฤติกรรม แก้ไขรูปแบบความคิดและพฤติกรรมที่ทำให้เกิดการเสพติด โดยคนรอบข้างอาจแนะนำผู้ป่วยเกี่ยวกับวิธีจัดการกับปัญหาและหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่เป็นตัวกระตุ้นการใช้ยา เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยกลับไปใช้ยาอีก
  • ทำกิจกรรมกลุ่มบำบัด คนรอบข้างสามารถพาผู้ป่วยไปบำบัดยาเสพติดในศูนย์บำบัดยาเสพติดได้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับคนที่กำลังเผชิญกับปัญหาเดียวกัน ลดความรู้สึกโดดเดี่ยว และสร้างกำลังใจในการต่อสู้กับปัญหา

การใช้ยาฟาเทคอย่างผิดวิธีเสี่ยงที่จะเกิดผลเสียต่อสุขภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจ ดังนั้นจึงควรใช้ยาฟาเทคเพื่อรักษาโรคตามที่แพทย์หรือเภสัชกรแนะนำอย่างเคร่งครัด และใช้ยาเมื่อมีอาการหรือเท่าที่จำเป็นเท่านั้น สำหรับใครที่กำลังเผชิญกับการติดฟาเทค แอลกอฮอล์ หรือสารเสพติดชนิดใดก็ตาม ศูนย์บำบัดยาเสพติดอย่างศูนย์ฟื้นฟูไลท์เฮ้าส์ ยินดีให้คำปรึกษา โดยมีทีมแพทย์และบุคลากรผู้เชี่ยวชาญที่จะคอยดูแลอย่างใกล้ชิด พร้อมโปรแกรมบำบัดที่ถูกหลัก และออกแบบสำหรับแต่ละบุคคลโดยเฉพาะ เพื่อให้คุณกลับมามีชีวิตที่สดใสแข็งแรงอีกครั้ง

ได้ขึ้นทะเบียนเป็นสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยยาเสพติดและด้านสภาพจิตใจอย่างถูกต้องตามกฏหมาย

เกี่ยวกับศูนย์ฟื้นฟูไลท์เฮ้าส์

เป็นศูนย์ฟื้นฟูและพักฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในกรุงเทพ ศุนย์ฟื้นฟูไลท์เฮ้าส์ เป็นศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพในรูปแบบอเมริกัน ให้การรักษาติดยาเสพติดที่มีคุณภาพสูงสุดในราคาที่เหมาะสมและเป็นการบำบัดแบบเฉพาะในประเทศไทยเพื่อให้การรักษาเป็นรายบุคคลกับผู้บำบัดรักษาทุกราย เราเป็นเจ้าของและดำเนินการโดยทีมงานชาวอเมริกันและคนไทยที่มีประสบการณ์และได้รับการฝึกอบรมการรักษาการติดยาเสพติดและความผิดปกติด้านสุขภาพจิตจากสหรัฐอเมริกา

บริการของเรา

ให้การรักษาอาการของผู้ที่ติดยาเสพติดและแอลกอฮอล์โดยมีวิธีการรักษาแบบเหมาะสำหรับแต่ละบุคคล เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านการบำบัดการติดยาเสพติดที่มีคุณสมบัติและความรู้เหมาะสมที่สุด และบุคลากรทางการแพทย์ของเราทุกคนจบปริญญาโทหรือสูงกว่าโดยมีประสบการณ์หลายปีในการทำงานด้านสุขภาพจิตและการรักษาติดยาเสพติด ได้รับการฝึกอบรมในการรักษาการติดยาเสพติดและรักษาผู้ที่มีอาการผิดปกติด้านสุขภาพจิต

ติดต่อเรา

Lighthouse Human Services & Consulting, Co., Ltd.

Head Office:
Ramkamheng 118
Saphan Sung, Bangkok 10240
Thailand

Email: [email protected]