วิธีเลิกยาไอซ์อย่างปลอดภัย เลี่ยงอันตรายจากการถอนยา

การเลิกยาไอซ์ไม่ใช่เรื่องของใจสู้เพียงอย่างเดียว แต่เป็นกระบวนการทางการแพทย์และจิตใจที่ต้องมีแผน ดูแลความปลอดภัย และการสนับสนุนที่ถูกวิธี โดยเฉพาะช่วงถอนยาซึ่งมักมาพร้อมอาการอ่อนเพลีย ซึมเศร้า วิตกกังวล นอนไม่หลับ ไปจนถึงอยากใช้ซ้ำ หากจัดการไม่ถูกต้อง อาจเสี่ยงอันตรายทั้งต่อร่างกายและจิตใจ

บทความนี้สรุปวิธีเลิกยาไอซ์อย่างปลอดภัย ตั้งแต่ทำความเข้าใจสาเหตุที่ทำให้มีการติดยาไอซ์ ผลกระทบเมื่อหยุดยาหรือภาวะถอนยาไอซ์ ทางออกและวิธีการเลิกยาไอซ์ ไปจนถึงจุดที่ควรมองหาศูนย์บำบัดยาเสพติดอย่างจริงจัง เป้าหมายคือให้คุณมีแผนก้าวต่อไปที่ชัดเจน ปลอดภัย และยั่งยืน

สาเหตุที่ทำให้มีการติดยาไอซ์

การติดยาไอซ์ หรือ เมทแอมเฟตามีน (Methamphetamine) นั้นเกิดจากการที่ผู้ใช้ได้รับสารกระตุ้นประสาทนี้เข้าสู่ร่างกายอย่างต่อเนื่องและเป็นระยะเวลานาน ซึ่งตัวยามีฤทธิ์แรงและทำให้เกิดการเสพติดได้รวดเร็วมาก

เนื่องจากยาไอซ์ถูกจัดเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 และไม่มีการใช้ในทางการแพทย์ในประเทศไทย สาเหตุหลักของการติดจึงมาจากการใช้ยาในทางที่ผิดกฎหมาย และไม่มีการควบคุมปริมาณหรือความถี่ในการใช้

ตัวยาจะเข้าไปกระตุ้นและเปลี่ยนแปลงการทำงานของสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับความสุขและแรงจูงใจ (Dopamine system) จนทำให้เกิดความต้องการยาในระดับที่สูงมาก ผู้ใช้จึงไม่สามารถหยุดใช้ได้ด้วยตัวเอง และต้องเพิ่มปริมาณหรือความถี่ในการใช้เพื่อให้ได้รับผลกระทบเดิม ๆ จนนำไปสู่วงจรของการเสพติดในที่สุด 

ใครคือผู้ที่ตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะติดยาไอซ์

ปัจจัยส่วนบุคคล

  • มีประวัติโรคซึมเศร้า วิตกกังวล สมาธิสั้น (ADHD) หรือปัญหาสุขภาพจิตอื่น ๆ
  • มีประวัติพึ่งพาสารเสพติดชนิดอื่น (เช่น เหล้า กัญชา ยาอี) หรือเริ่มใช้สารตั้งแต่อายุยังน้อย
  • เคยเผชิญเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจเรื้อรัง เครียดสะสม นอนน้อย หรือมีคนในครอบครัวเคยติดสาร
  • บุคลิกชอบเสี่ยง ชอบลองของใหม่ ควบคุมแรงกระตุ้นได้ยาก

ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมและวิถีชีวิต

  • อยู่ในกลุ่มเพื่อน/ที่ทำงานที่เข้าถึงสารได้ง่าย หรือมีค่านิยมส่งเสริมการใช้สาร
  • ทำงานกะดึก งานที่ต้องอดนอนยาว ๆ ต้องการเพิ่มพลัง/โฟกัส (เช่น งานบันเทิง บาร์ คลับ งานโลจิสติกส์กะกลางคืน)
  • ขาดการสนับสนุนจากครอบครัวหรือสังคม เผชิญปัญหาเศรษฐกิจ ที่อยู่อาศัยไม่มั่นคง 

หมายเหตุ: การมีปัจจัยเสี่ยงไม่ได้หมายความว่าจะต้องติดยาเสมอไป แต่ยิ่งมีหลายปัจจัยรวมกัน ความเสี่ยงยิ่งสูง หากกังวลว่าตัวเองหรือคนใกล้ตัวเริ่มมีปัญหา ควรรีบปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินและวางแผนช่วยเหลือให้เร็วที่สุด

จะรู้ว่าเรามีอาการติดยาไอซ์ได้อย่างไร?

การประเมินความผิดปกติจากการใช้ยาไอซ์ (เมทแอมเฟตามีน) ควรทำโดยบุคลากรทางการแพทย์ โดยทั่วไปประกอบด้วย

  1. ซักประวัติการใช้ยา: แพทย์จะถามถึงปริมาณ ความถี่ ระยะเวลาที่ใช้ และผลกระทบต่อการเรียน การงาน ความสัมพันธ์ และกฎหมาย
  2. ตรวจร่างกายและประเมินภาวะแทรกซ้อน: ตรวจสัญญาณชีพ น้ำหนัก ภาวะขาดน้ำผิวหนัง ฟันและเหงือก รวมถึงการคัดกรองสุขภาพจิต
  3. ตรวจทางห้องปฏิบัติการ: อาจมีการตรวจเลือด/ปัสสาวะเพื่อยืนยันการมีสารเสพติดและประเมินผลต่ออวัยวะ

คุณอาจเข้าข่ายว่ามีความผิดปกติจากการใช้ยาไอซ์ หากภายใน 12 เดือน มีอาการอย่างน้อย 3 ข้อ ต่อไปนี้:

  1. ทนต่อยาเพิ่มขึ้น (Tolerance) ต้องใช้ปริมาณมากขึ้นจึงได้ผลเหมือนเดิม หรือเมื่อใช้ปริมาณเดิมแล้วได้ผลลดลง
  2. ปัญหาสุขภาพช่องปากและฟัน เช่น ฟันผุ เหงือกอักเสบ ปวดกราม/กัดฟันบ่อย
  3. น้ำหนักลด ซูบผอมผิดปกติ จากการเบื่ออาหาร นอนไม่หลับ และเผาผลาญสูง
  4. ผลกระทบต่อสุขภาพจิต เช่น วิตกกังวล ซึมเศร้า หวาดระแวง เห็นภาพหลอน หรืออารมณ์แปรปรวนจนรบกวนการใช้ชีวิต 

ผลกระทบเมื่อหยุดยา: ภาวะถอนยาไอซ์

อาการที่เกิดขึ้นเมื่อคุณเลิกยาไอซ์

เมื่อบุคคลที่ใช้ยาไอซ์ (เมทแอมเฟตามีน) เป็นประจำหยุดใช้ยาหรือลดปริมาณลงอย่างกะทันหัน ร่างกายจะเข้าสู่ภาวะที่เรียกว่าอาการถอนยา (Withdrawal Symptoms) ซึ่งเป็นผลจากการที่สมองพยายามปรับตัวกลับสู่สภาวะปกติหลังจากที่เคยพึ่งพาสารกระตุ้นจากยามาเป็นเวลานาน อาการเหล่านี้อาจแบ่งออกได้เป็นอาการทางจิตใจและร่างกาย ดังนี้

1. อาการทางจิตใจและอารมณ์ (ด้านจิตเวช)

อาการเหล่านี้มักเป็นอาการที่หนักที่สุดและเป็นอันตรายที่สุดที่ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด

  • ภาวะซึมเศร้าอย่างรุนแรง: เป็นอาการที่เด่นชัดและอันตรายที่สุด ผู้เลิกยาจะรู้สึกหดหู่ สิ้นหวัง และอาจมีความคิดหรือพฤติกรรมทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
  • ความอยากยาที่รุนแรง: มีความรู้สึกโหยหาที่จะกลับไปเสพยาอย่างมากจนยากจะควบคุม ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการกลับไปเสพซ้ำ (Relapse)
  • วิตกกังวลและอารมณ์แปรปรวน: รู้สึกกระวนกระวายใจ หงุดหงิดง่าย มีอารมณ์รุนแรง และอาจมีภาวะหวาดระแวง (Paranoia) หรือรู้สึกเหมือนมีคนปองร้าย
  • ไม่สามารถรู้สึกเพลิดเพลินได้ (Anhedonia): สมองไม่สามารถรับรู้ความสุขจากกิจกรรมปกติ เช่น อาหาร งานอดิเรก หรือการเข้าสังคมได้ ทำให้รู้สึกเบื่อหน่ายชีวิต

2. อาการทางร่างกายและพฤติกรรม

อาการเหล่านี้เป็นผลจากการที่ระบบประสาทส่วนกลางทำงานไม่สมดุล

  • ความเหนื่อยล้าอย่างรุนแรง: รู้สึกหมดเรี่ยวแรง ต้องการนอนหลับมากผิดปกติ (Hyper-somnia) และอาจนอนหลับยาวนานติดต่อกันหลายวัน
  • การนอนหลับผิดปกติ: แม้ว่าจะรู้สึกเหนื่อยมาก แต่ก็อาจมีอาการฝันร้าย นอนไม่หลับ หรือหลับไม่สนิทในช่วงแรก
  • อาการคล้ายไข้หวัดใหญ่และปวดเมื่อย: ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ หรือมีอาการตัวสั่น เหงื่อออกมาก
  • ความอยากอาหารเพิ่มขึ้น: อาจมีความอยากอาหารเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งตรงข้ามกับช่วงที่ใช้ยา
  • อาการทางความคิด: มีปัญหาด้านสมาธิ ความจำ และรู้สึกสับสน หรือสมองทำงานช้าลง

อาการถอนยาไอซ์อยู่ได้นานแค่ไหน

โดยทั่วไปแล้ว อาการทางกายภาพและอาการเฉียบพลันส่วนใหญ่จะดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่อาการทางจิตใจ เช่น ภาวะซึมเศร้าและความอยากยาที่รุนแรง อาจคงอยู่เป็นสัปดาห์หรือหลายเดือน

คุณจะช่วยคนที่มีอาการถอนยาไอซ์ได้อย่างไร

หากคุณเป็นคนที่รักหรือคนใกล้ชิดของผู้ที่กำลังจะถอนยาไอซ์ บทบาทของคุณคือการให้ความช่วยเหลือที่สำคัญที่สุด อย่าปล่อยให้เขาต้องต่อสู้เพียงลำพัง คุณควรเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับยาไอซ์ และเตรียมตัวให้พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจเพื่อรับมือกับผู้ที่ติดยา เมื่อพร้อมแล้วต้องให้กำลังใจพวกเขาอย่างเต็มที่ และย้ำเสมอว่า ไม่มีคำว่าสายเกินไปที่จะเริ่มต้นใหม่

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือห้ามตำหนิหรือต่อว่าให้เขารู้สึกละอายใจ เพราะการกระทำดังกล่าวจะทำให้เขารู้สึกถูกทำร้ายและอาจปลีกตัวหนีห่าง ซึ่งจะทำให้การเลิกยาไม่สำเร็จ แต่ให้คอยสังเกตอาการถอนยาของเขาอย่างต่อเนื่อง หากอาการเริ่มรุนแรงขึ้น หรือมีสัญญาณอันตรายต่อร่างกายและจิตใจ ควรรีบติดต่อผู้เชี่ยวชาญหรือสถานบำบัดยาเสพติดทันที เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่ถูกต้องและปลอดภัยที่สุด

ข้อควรทราบเกี่ยวกับการถอนยาไอซ์

อาการถอนยาไอซ์ส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตทางร่างกาย แต่ความเสี่ยงที่สำคัญที่สุดคือ ภาวะซึมเศร้าและการฆ่าตัวตาย ดังนั้น การเลิกยาไอซ์ควรอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์และจิตเวชหรือคลินิกบำบัดฟื้นฟูสำหรับผู้เลิกยาเสพติด เพื่อให้ได้รับการประเมินและจัดการกับความเสี่ยงเหล่านี้อย่างเหมาะสม

วิธีการเลิกยาไอซ์อย่างปลอดภัย

ถ้าหากคุณมีความต้องการที่จะเลิกเสพยาไอซ์คุณควรเริ่มจาก

  1. การตั้งเป้าและบอกกับตัวเองว่าจะเลิกยาอย่างเด็ดขาด ซึ่งควรมีจิตใจที่เข้มแข็ง
  2. ทิ้งอุปกรณ์การเสพทั้งหมด
  3. ควรเลิกคบเพื่อนกลุ่มเดิมที่ชักชวนกันไปเสพยา
  4. หลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานที่หรือสถานการณ์ที่ทำให้นึกถึงการใช้ยา
  5. หากิจกรรมอย่างอื่นทำ เช่น การออกกำลังกาย หรือเล่นกีฬา เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเองที่จะกลับไปใช้ยาอีกครั้ง

หากอาการถอนยาอยู่ในระดับที่ทนได้ คุณสามารถหยุดยาด้วยตัวเองได้ (หักดิบ) แต่สิ่งสำคัญคือ ต้องแจ้งให้คนในครอบครัวหรือคนใกล้ชิดรับทราบ ถึงแผนการเลิกยาของคุณ เพื่อให้พวกเขาสามารถสังเกตอาการและให้ความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงทีหากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น

หากคุณเคยใช้ยาในปริมาณมาก หรือเริ่มมีอาการถอนยาที่รุนแรง เช่น ภาวะซึมเศร้า ความหวาดระแวง หรือมีความคิดฆ่าตัวตาย ห้ามหยุดยาด้วยตัวเองโดยเด็ดขาด คุณควรรีบ ติดต่อแพทย์หรือสถานบำบัดยาเสพติดทันที เพื่อเข้ารับการบำบัดภายใต้การดูแลของทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ วิธีนี้จะปลอดภัยที่สุดในการควบคุมอาการ ลดอันตราย และจัดการกับความเสี่ยงร้ายแรงทางจิตเวชได้

สถานบำบัดเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการเลิกยาไอซ์ใช่หรือไม่?

ในกรณีของการเลิกยาไอซ์ (เมทแอมเฟตามีน) นั้น การเข้ารับการบำบัดในสถานบำบัดหรือโรงพยาบาลมักเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ใช้ยาในปริมาณมาก ติดยามานาน หรือมีอาการถอนยาที่รุนแรง

การบำบัดในสถานบำบัดจะมีทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่การ ประเมินผล ไปจนถึงการจัดโปรแกรมการรักษาเฉพาะบุคคล การบำบัดที่ถูกต้องและถูกวิธีนี้จะช่วยให้การเลิกยามีประสิทธิภาพสูงขึ้นมาก เพราะไม่เพียงแต่เป็นการหยุดยาเท่านั้น แต่ยังเป็นการรักษาแบบองค์รวม

นอกจากนี้ การอยู่ในสถานบำบัดจะช่วยให้สามารถให้ยาจากแพทย์ เพื่อลดความรุนแรงของอาการถอนยาและจัดการกับความเสี่ยงทางสุขภาพจิตได้อย่างทันท่วงที ดังนั้นการได้รับการบำบัดรักษาที่ถูกต้องถูกวิธีเช่นนี้จึงช่วยให้ผู้บำบัดมีความปลอดภัยและลดอันตรายจากการเลิกยาได้มากกว่าการพยายามหักดิบด้วยตนเองอย่างแน่นอน

อย่าปล่อยให้ความมืดมิดของการเสพติดบดบังชีวิต 

บำบัดการเสพติดยาไอซ์ได้แล้ววันนี้

การเลิกยาไอซ์เป็นเรื่องท้าทายแต่สามารถทำได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืน หากดำเนินการด้วยความเข้าใจและการสนับสนุนที่ถูกต้อง หัวใจสำคัญคือการรับมือกับภาวะถอนยาที่มาพร้อมกับความเสี่ยงรุนแรงทางสุขภาพจิต เช่น ภาวะซึมเศร้าและความอยากยาที่ไม่สามารถควบคุมได้ การเลิกยาจึงไม่ใช่แค่เรื่องของความเข้มแข็งทางใจ แต่ต้องมีแผนการที่ปลอดภัยแผนการที่ปลอดภัยเริ่มต้นจากการทำลายสิ่งกระตุ้น ทั้งอุปกรณ์และกลุ่มเพื่อนเก่า พร้อมทั้งเปลี่ยนไปทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์เพื่อบำบัดตัวเอง อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ใช้ยามานานหรือมีอาการถอนยาที่รุนแรง การหยุดยาด้วยตัวเองนั้นอันตรายมาก ทางเลือกที่ดีที่สุดคือการเข้ารับการบำบัดในสถานบำบัดยาเสพติด Lighthouse เพื่อรับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญ การรักษาในสถานบำบัดของเราจะให้การประเมินและโปรแกรมบำบัดเฉพาะบุคคล ซึ่งเป็นหนทางที่ปลอดภัยและเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูชีวิตได้มากที่สุด

ได้ขึ้นทะเบียนเป็นสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยยาเสพติดและด้านสภาพจิตใจอย่างถูกต้องตามกฏหมาย

เกี่ยวกับศูนย์ฟื้นฟูไลท์เฮ้าส์

เป็นศูนย์ฟื้นฟูและพักฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในกรุงเทพ ศุนย์ฟื้นฟูไลท์เฮ้าส์ เป็นศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพในรูปแบบอเมริกัน ให้การรักษาติดยาเสพติดที่มีคุณภาพสูงสุดในราคาที่เหมาะสมและเป็นการบำบัดแบบเฉพาะในประเทศไทยเพื่อให้การรักษาเป็นรายบุคคลกับผู้บำบัดรักษาทุกราย เราเป็นเจ้าของและดำเนินการโดยทีมงานชาวอเมริกันและคนไทยที่มีประสบการณ์และได้รับการฝึกอบรมการรักษาการติดยาเสพติดและความผิดปกติด้านสุขภาพจิตจากสหรัฐอเมริกา

บริการของเรา

ให้การรักษาอาการของผู้ที่ติดยาเสพติดและแอลกอฮอล์โดยมีวิธีการรักษาแบบเหมาะสำหรับแต่ละบุคคล เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านการบำบัดการติดยาเสพติดที่มีคุณสมบัติและความรู้เหมาะสมที่สุด และบุคลากรทางการแพทย์ของเราทุกคนจบปริญญาโทหรือสูงกว่าโดยมีประสบการณ์หลายปีในการทำงานด้านสุขภาพจิตและการรักษาติดยาเสพติด ได้รับการฝึกอบรมในการรักษาการติดยาเสพติดและรักษาผู้ที่มีอาการผิดปกติด้านสุขภาพจิต

ติดต่อเรา

Lighthouse Human Services & Consulting, Co., Ltd.

Head Office:
Ramkamheng 118
Saphan Sung, Bangkok 10240
Thailand

Email: [email protected]