ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา “พอตเค” ได้กลายเป็นหนึ่งในกระแสที่เติบโตอย่างรวดเร็วในกลุ่มวัยรุ่น โดยเฉพาะในวงการพอตไฟฟ้าที่มีการนำยาเคตามีน (Ketamine) และสารเสพติดอื่น ๆ มาผสมลงไปในน้ำยา ซึ่งสามารถทำให้ผู้ใช้มีอาการ “เมาเค” หรือมีความรู้สึกที่คล้ายคลึงกับการใช้ยาเคตามีน สิ่งที่น่าสังเกตคือถึงแม้พอตเคจะถูกมองว่าปลอดภัยกว่าการสูบบุหรี่ทั่วไป แต่ความจริงแล้วมันกลับเป็นภัยต่อสุขภาพที่ค่อนข้างรุนแรง ไม่เพียงแต่จากสารเคมีที่ปะปนอยู่ในพอตเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเสพติดที่มักเกิดขึ้นจากการใช้สารเหล่านี้ในระยะยาว โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูงในการติดสารเคมีนี้ ซึ่งทำให้พอตเคระบาดอย่างรวดเร็วในกลุ่มเป้าหมายนี้
ในบทความนี้ เราจะไปทำความเข้าใจแบบเจาะลึกว่า พอตเคคืออะไร? พอตมีสารอะไรบ้าง? และทำไมถึงกลายเป็นภัยที่ระบาดในกลุ่มวัยรุ่น พร้อมทั้งพูดถึงผลกระทบจากการใช้พอตเคและวิธีการป้องกันการเสพติดนี้ในกลุ่มวัยรุ่น รวมถึงวิธีการบำบัดและฟื้นฟูเมื่อเกิดปัญหาการเสพติดขึ้น
“พอตเค” เป็นรูปแบบการเสพยาที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าขนาดเล็กแบบเครื่องพอตเปลี่ยนหัวน้ำยาได้ โดยน้ำยาที่ใช้จะมีการผสมสารเคตามีน (Ketamine) ซึ่งแต่เดิมถูกคิดค้นเพื่อใช้เป็นยาสลบทางการแพทย์ เป็นผงสีชา หรือเป็นน้ำสีชา ในทางการแพทย์ เคตามีนถูกใช้เป็นยาสลบและยาระงับปวด แต่เมื่อถูกนำมาใช้ในทางที่ผิด จะกลายเป็นยาเสพติดที่มีฤทธิ์หลอนประสาทรุนแรง จัดเป็นสารที่มีผลต่อจิตประสาทประเภท 2 และบางครั้งในพอตเค ส่วนผสมของมันจะพบเมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ที่ทำให้ผู้เสพรู้สึกตื่นตัว มีพลังงาน แต่ในขณะเดียวกันก็ทำลายสมองและระบบประสาทอย่างถาวร ซึ่งจัดเป็นยาเสพติดประเภท 1 ด้วย น้ำยาของพอตเคมีลักษณะใสและไม่มีกลิ่น จึงทำให้มองไม่ออกว่าเป็นน้ำยาที่มีสารเสพติดปะปนอยู่ ผู้ใช้จะสูบพอตเคเหมือนกับบุหรี่ไฟฟ้าทั่วไป โดยการเปิดเครื่องให้ความร้อนกับน้ำยา จนน้ำยาที่มีสารเคตามีนระเหยกลายเป็นไอละอองและควันที่ผู้เสพสูดดมเข้าสู่ร่างกาย ทำให้การใช้งานพอตเคดูเหมือนการสูบบุหรี่ไฟฟ้าปกติ แต่มีสารเสพติดผสมอยู่ในน้ำยา
การใช้เคตามีนผ่านบุหรี่ไฟฟ้าทำให้ผู้เสพได้รับผลของยาอย่างรวดเร็วจากการสูดดมผ่านทางปอด นอกจากนี้ยังสะดวกในการพกพาและสามารถใช้งานในที่สาธารณะได้อย่างลับๆ เพราะรูปลักษณ์และกลิ่นควันไม่ต่างจากบุหรี่ไฟฟ้าทั่วไป ทำให้ยากที่จะสังเกตเห็น และคนรอบข้างมักไม่สงสัยว่าภายในพอตมีสารเสพติดผสมอยู่ ดังนั้น พอตเคจึงกลายเป็นภัยเงียบที่ใช้ความนิยมของบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มวัยรุ่นในการซ่อนเร้นการเสพยา ผู้เสพสามารถใช้พอตเคในการสูบเคตามีนในที่สาธารณะหรือสถานบันเทิงโดยไม่ถูกเจ้าหน้าที่หรือผู้ดูแลสถานที่สงสัย เป็นกลวิธีใหม่ของขบวนการค้ายาที่แอบซ่อนยาเสพติดในรูปแบบของแฟชั่นวัยรุ่นและนักเที่ยวกลางคืน
การผสมเคตามีนในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าถือเป็นการทำให้ผู้เสพได้รับสารเสพติดหลายชนิดพร้อมกันในครั้งเดียว โดยเฉพาะหากน้ำยาพอตเคมีการผสมเมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ด้วย ผู้เสพจะได้รับทั้งฤทธิ์หลอนประสาทจากเคตามีนและฤทธิ์กระตุ้นจากยาบ้า ทำให้ผลกระทบโดยรวมมีความรุนแรงและซับซ้อนมากขึ้น สำนักงาน ป.ป.ส. เปรียบเทียบว่าความอันตรายของพอตเคนั้นคล้ายกับสูตรผสมสารเสพติดแบบ “แฮปปี้วอเตอร์ (Happy Water)” ซึ่งรวมยาอี (เอ็กซ์ตาซี), ไอซ์ (เมทแอมเฟตามีน) และเคตามีนเข้าด้วยกัน โดยให้ผลทั้งกระตุ้นและกดประสาทที่ยากจะคาดเดา
ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างพอตเคกับบุหรี่ไฟฟ้าทั่วไปอยู่ที่ส่วนประกอบและผลกระทบต่อร่างกาย บุหรี่ไฟฟ้าทั่วไปจะมีส่วนประกอบหลักคือนิโคติน (เป็นสารหลักที่ทำให้เกิดการเสพติด มีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท) โพรไพลีนไกลคอล (Propylene Glycol) เวจีเทเบิลไกลเซอรีน (Vegetable Glycerin) และสารปรุงแต่งรสและกลิ่น เช่น กลิ่นผลไม้ มิ้นต์ ช็อกโกแลต เป็นต้น
ในขณะที่พอตเคกลับมีสารเสพติดที่ร้ายแรงกว่ามาก การใช้พอตเคไม่เพียงแต่ทำให้เกิดการเสพติดนิโคติน แต่ยังทำให้เกิดการเสพติดสารเสพติดหลายชนิดพร้อมกัน ผลกระทบต่อสมองและร่างกายจึงรุนแรงกว่าการสูบบุหรี่ทั่วไปหลายเท่าตัว
ความแตกต่างอีกประการหนึ่งคือความเร็วในการออกฤทธิ์ โดยบุหรี่ไฟฟ้าทั่วไปที่มีนิโคตินจะออกฤทธิ์ประมาณ 10-30 นาที ผู้ใช้ยังคงมีสติและสามารถควบคุมตนเองได้ ในขณะที่พอตเค ที่มีเคตามีนจะออกฤทธิ์ยาวนานถึง 30 นาที และมีผลข้างเคียงต่อเนื่องอีก 80-100 นาที (รวมแล้วเกือบ 2 ชั่วโมง!) การออกฤทธิ์ที่ยาวนานนี้ทำให้ผู้ใช้อยู่ในภาวะเสี่ยงอันตรายเป็นเวลานาน อาจเกิดอุบัติเหตุหรือทำร้ายตนเองและผู้อื่นได้
สิ่งที่น่ากังวลที่สุดคือการที่พอตเคถูกออกแบบให้ดูเหมือนบุหรี่ไฟฟ้าธรรมดา ทำให้ผู้ใช้ โดยเฉพาะวัยรุ่น อาจไม่ทราบว่าตนเองกำลังเสพสารเสพติดที่อันตรายถึงชีวิต การหลอกลวงลักษณะนี้เป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดของผู้ค้ายาเสพติดในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่
การระบาดของพอตเคในกลุ่มวัยรุ่นไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากการบรรจบกันของหลายปัจจัยทางสังคม เทคโนโลยี และจิตวิทยา ความเข้าใจในสาเหตุเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การรวมกันของปัจจัยเหล่านี้ทำให้พอตเคสามารถแพร่กระจายในกลุ่มวัยรุ่นได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ผู้ที่เกี่ยวข้องหลายฝ่ายยังไม่ทันตระหนักถึงความร้ายแรงของปัญหา การแก้ไขปัญหานี้จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ตั้งแต่ครอบครัว โรงเรียน สื่อมวลชน และหน่วยงานราชการ
แม้พอตเคจะอำพรางมาในคราบบุหรี่ไฟฟ้า แต่ผลกระทบต่อสุขภาพนั้นร้ายแรงดังเช่นการเสพยาเสพติดรุนแรงโดยตรง เนื่องจากเคตามีนเป็นสารออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลางที่ส่งผลต่อสมองและการรับรู้อย่างมาก อีกทั้งยังมีพิษภัยจากสารอื่น ๆ ที่อาจผสมมาด้วยในน้ำยา ดังนี้
การสูบพอตเคสามารถทำให้ผู้ใช้เกิดอาการหลอนประสาทอย่างรุนแรง โดยสารเคมีที่อยู่ในพอตเคจะกระตุ้นการทำงานของสมองในลักษณะที่ผิดปกติ ส่งผลให้ผู้เสพรู้สึกเคลิบเคลิ้ม รู้สึกมีความสุขอย่างไม่สามารถควบคุมได้ คล้ายกับการตกอยู่ในภวังค์ความฝัน ซึ่งในขณะเดียวกันสมองกลับทำงานอย่างไม่ปกติ โดยเฉพาะในส่วนที่มีบทบาทในการควบคุมอารมณ์ ความจำ และการตัดสินใจ จึงทำให้ผู้เสพรู้สึกว่าการรับรู้ของตัวเองผิดเพี้ยนไป และไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมของตนเองได้อย่างเต็มที่
นอกจากนี้ บางรายอาจพบว่าเกิดภาวะซึมเศร้าหรืออารมณ์แปรปรวนที่เกิดจากพิษภัยของยาเคตามีนที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของสมอง ส่งผลให้การควบคุมอารมณ์และการตัดสินใจผิดปกติ ยิ่งทำให้ผู้เสพเผชิญกับอาการทางจิตใจที่รุนแรงขึ้น รวมถึงความรู้สึกหมดหวังหรือท้อแท้ ซึ่งอาจส่งผลต่อชีวิตประจำวันและความสัมพันธ์ส่วนตัวของผู้เสพ
โดยผลกระทบต่อพัฒนาการสมองของวัยรุ่นจากการใช้พอตเคเป็นสิ่งที่น่าวิตกที่สุด เนื่องจากเคตามีนและเมทแอมเฟตามีน สามารถทำลายเซลล์สมองและขัดขวางการพัฒนาการปกติของสมอง และการที่สมองได้รับการกระตุ้นจากสารเสพติดตั้งแต่อายุน้อยทำให้มีแนวโน้มที่จะหาสารเสพติดที่ให้ความรู้สึกแรงกว่าเดิม ซึ่งอาจนำไปสู่การใช้สารเสพติดที่อันตรายกว่า เช่น เฮโรอีน หรือสารเสพติดสังเคราะห์อื่น ๆ
การผสมสารเคตามีนกับนิโคตินและสารกระตุ้นอื่น ๆ สามารถมีผลกระทบที่รุนแรงต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด โดยสารเคตามีนจะทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น และทำให้หัวใจเต้นเร็วหรือผิดจังหวะ ซึ่งอาจนำไปสู่อาการหัวใจเต้นผิดจังหวะเฉียบพลันที่สามารถเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ นอกจากนี้ การเสพพอตเคในปริมาณที่มากเกินไป เช่น การสูบติด ๆ กันหลายครั้ง หรือการใช้หัวพอตที่มีความเข้มข้นของยาเสพติดสูง จะทำให้ร่างกายได้รับสารเคตามีนในปริมาณเกินขนาด จนทำให้เกิดอาการชักเกร็ง หมดสติ และสมอง รวมถึงกล้ามเนื้อขาดออกซิเจน ซึ่งเป็นอาการที่อาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าผู้ที่ไม่เคยใช้พอตเคมาก่อนมีความเสี่ยงสูงที่จะเผชิญกับอาการโอเวอร์โดส (Overdose) และอาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ง่าย เนื่องจากร่างกายไม่มีภูมิต้านทานต่อสารเคตามีน ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เสพที่ไม่ระมัดระวังในการใช้พอต ข้อเสียต่อร่างกายก็ยิ่งทวีคูณ เช่น คลื่นไส้ อาเจียนอย่างรุนแรง ในระหว่างที่พิษจากการโอเวอร์โดสกำเริบ และหากผู้เสพสามารถรอดชีวิตจากการโอเวอร์โดสได้ ก็ยังคงมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น การเกิดปอดอักเสบจากการสำลัก หรือสมองบวมจากการขาดออกซิเจน ซึ่งอาจทำให้เกิดผลกระทบทางร่างกายที่ยาวนานและอาจเป็นอันตรายได้
แม้เคตามีนจะไม่ทำให้เกิดอาการถอนยาอันตรายแบบยาเสพติดบางชนิด แต่การใช้พอตเค ทำให้เกิดการเสพติดได้ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ผู้ใช้ที่สูบเป็นประจำจะเกิดความต้องการเสพซ้ำ (อยากเค) อย่างรุนแรงเมื่อฤทธิ์ยาหมดลง ซึ่งนำไปสู่พฤติกรรมเสาะหายาและเพิ่มขนาดการใช้ขึ้นเรื่อย ๆ ที่น่าเป็นห่วงคือ การผสมเคตามีนเข้ากับบุหรี่ไฟฟ้าที่มีนิโคตินสูง ยิ่งทำให้ผู้เสพติดง่ายและเลิกยากขึ้นไปอีก เพราะนิโคตินเองก็เป็นสารเสพติดรุนแรงที่ทำให้สมองเสพติดการกระตุ้นได้รวดเร็ว เมื่อใช้นิโคตินควบคู่กับเคตามีน สมองจะจดจำความรู้สึกเคลิบเคลิ้มหลอนประสาทที่รุนแรงขึ้นนี้และโหยหาซ้ำ ส่งผลให้เสี่ยงต่อการเสพติดเรื้อรังและมีปัญหาสุขภาพจิตในระยะยาว มากกว่าการใช้สารชนิดใดชนิดหนึ่งเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ การเสพเคตามีนหนัก ๆ เป็นเวลานานอาจทำลายอวัยวะภายใน เช่น ทำให้เกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรัง (ketamine cystitis) จนปัสสาวะเป็นเลือดและเสี่ยงกระเพาะปัสสาวะพิการถาวรอีกด้วย (เคยมีรายงานผู้ป่วยต้องผ่าตัดกระเพาะปัสสาวะทิ้งจากการติดเคตามีนเรื้อรัง)
โดยสรุป พอตเคส่งผลกระทบร้ายแรงทั้งต่อร่างกายและจิตใจ ในระยะสั้นอาจทำให้หลอนประสาท ควบคุมตัวเองไม่ได้ บางรายถึงขั้นได้รับอุบัติเหตุหรือบาดเจ็บจากพฤติกรรมไม่รู้สึกตัวขณะหลอนยา ส่วนระยะยาวนั้น เสี่ยงทั้งปัญหาสุขภาพจิตถาวร การเสพติดเรื้อรัง รวมถึงความเสียหายต่ออวัยวะภายใน ไม่ต่างจากผู้เสพยาเสพติดร้ายแรงชนิดอื่น ๆ
ในประเทศไทย แนวทางการบำบัดรักษาผู้ติดพอตเคจะใช้หลักการบำบัดยาเสพติดทั่วไป เนื่องจากสารเสพติดที่เกี่ยวข้องหลัก ๆ คือเคตามีน ซึ่งเป็นสารที่มีลักษณะคล้ายกับเมทแอมเฟตามีนและนิโคติน สถานบำบัดยาเสพติดเอกชนและหน่วยงานของรัฐมองว่าผู้ที่ติดพอตเคไม่ใช่อาชญากร แต่เป็นผู้ที่ต้องการการฟื้นฟูสุขภาพ ดังนั้นผู้ที่ตระหนักว่าตนเองมีปัญหาการเสพพอตเคหรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยง สามารถเข้ารับการบำบัดรักษาได้โดยสมัครใจที่สถานที่ฟื้นฟูผู้ติดสารเสพติดหรือศูนย์บำบัดยาเสพติดเอกชนที่ได้รับการรับรองทั่วประเทศ
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การเลิกเคตามีนสามารถทำได้ทันทีหรือที่เรียกว่าการหักดิบ เนื่องจากเคตามีนไม่ก่อให้เกิดอาการถอนที่รุนแรงเหมือนกับสารเสพติดประเภทเฮโรอีนหรือแอลกอฮอล์ ซึ่งทำให้ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการค่อย ๆ ลดขนาดยา อย่างไรก็ตาม ผู้ที่หยุดใช้เคตามีนอาจประสบกับอาการต่าง ๆ เช่น ความหงุดหงิด อารมณ์แปรปรวน หรือภาวะซึมเศร้า โดยในกรณีนี้ คลินิกรักษายาเสพติดจะให้การดูแลทางจิตใจเพื่อช่วยปรับสภาพอารมณ์ และอาจมีการจ่ายยาบางชนิดเพื่อช่วยบรรเทาความอยากยาและช่วยให้ผู้ป่วยสามารถผ่านช่วงเวลาที่ท้าทายในการเลิกยาไปได้
หากผู้เสพพอตเคมีการใช้บุหรี่ไฟฟ้าร่วมด้วยและมีอาการติดนิโคตินจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า การบำบัดที่ศูนย์เลิกยาเสพติดอาจรวมถึงการให้สารทดแทนนิโคติน (nicotine replacement) เพื่อช่วยลดความอยากบุหรี่ ซึ่งอาจพิจารณาควบคู่กับการบำบัดรักษาในด้านอื่น ๆ ที่คลินิกรักษายาเสพติดมีให้บริการ ศูนย์บำบัดยาเสพติดเอกชนสามารถจัดการกับปัญหาการเสพติดทั้งสองประเภทไปพร้อมกัน ทำให้ผู้ที่ต้องการเลิกใช้พอตเคหรือบุหรี่ไฟฟ้าสามารถได้รับการดูแลอย่างครบถ้วนจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดสารเสพติดอย่างมีประสิทธิภาพ
Lighthouse คือศูนย์บำบัดยาเสพติดเอกชนที่มีมาตรฐานสูงในกรุงเทพฯ เราได้ขึ้นทะเบียนเป็นสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยยาเสพติดและด้านสภาพจิตใจอย่างถูกต้องตามกฏหมาย มีแนวทางการรักษาที่จะช่วยฟื้นฟูสุขภาพและชีวิตของผู้เสพให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น การรักษาที่ Lighthouse ใช้แนวทางที่ผสมผสานทั้งการบำบัดจิตใจและกิจกรรมเสริมต่าง ๆ เช่น การทำสมาธิ การทำศิลปะบำบัด รวมถึงการออกกำลังกาย เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจ มีทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ยาวนานในการบำบัดผู้ติดยาเสพติดและสุขภาพจิต พร้อมให้การดูแลผู้ป่วยตลอด 24 ชั่วโมง
ยิ่งไปกว่านั้น Lighthouse ให้ความสำคัญมากกับความเป็นส่วนตัวและปลอดภัย เราเน้นการรักษาความลับของผู้ป่วย ไม่มีประวัติติดตัว และพร้อมมอบสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเหมาะสมสำหรับการฟื้นฟู
การบำบัดที่ Lighthouse ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้ป่วยเลิกเสพพอตเคได้ แต่ยังฟื้นฟูจิตใจและร่างกายให้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง หากคุณหรือคนที่คุณรักกำลังเผชิญกับปัญหาการติดพอตเคและต้องการการฟื้นฟู สามารถติดต่อเราเพื่อรับคำปรึกษาและเข้ารับการบำบัดได้ทันที Lighthouse พร้อมที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง
Lighthouse Human Services & Consulting, Co., Ltd.
Head Office:
Ramkamheng 118
Saphan Sung, Bangkok 10240
Thailand